'ศรีวราห์'รับมอบ3ผตห.ญาติ 'เปรมชัย'รุกป่าเลย
'ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล' รับมอบตัว 3 กก.บริษัท ครอบครัว 'เปรมชัย' บุกรุกที่ป่า จ.เลย กว่า 6,700 ไร่ - แจ้งข้อหาปล่อยตัวแล้ว
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. เพื่อรับมอบตัวและสอบปากคำ นางพิไลจิตร เริงวิทยา นางนิจพร จรณะจิตต์ นางอรเอม เทอดประวัติ 3 กรรมการบริษัท ซีพีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ถูกดำเนินคดีฐานบุกรุกพื้นที่ป่าใน อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย จ.เลย กว่า 6700 ไร่ รวม 6 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 680 ล้านบาท และทั้ง 3 คนนี้ยังเป็นเครือญาติของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทจะอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมน จำกัด ที่ถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่า ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดย รอง ผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังการสอบปากคำ ว่า ทั้ง 3 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกให้มาพบในวันนี้
โดยการสอบปากคำทั้ง 3 คน ให้การยอมรับว่า พื้นที่ทั้งหมดไม่มีเอกสารสิทธิ์จริง โดยมีการขอเข้าใช้พื้นที่ครั้งแรกไปตั้งแต่ปี 2552 ก่อนจะถอนเอกสารสิทธิ์และยื่นขอครอบครองอีกครั้งในปี 2556 โดยภายหลังสอบปากคำแจ้งข้อกล่าวหาแล้วเสร็จได้ปล่อยตัวไปเนื่องจากไม่มีเหตุให้ไปฝากขังและทั้ง 3 คน เดินทางมาตามหมายเรียก ส่วนที่ดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน เนื่องจากเป็นนิติบุคคลและเป็นกรรมการที่มีอำนาจในการลงนามคำสั่งของบริษัท ส่วนที่ไม่ดำเนินคดีกับนายเปรมชัย ที่ถือเป็นหนึ่งในกรรมการบริษัทนั้น เนื่องจากนายเปรมชัยไม่มีอำนาจในการลงนามของบริษัทจึงไม่มีพยานหลักฐานเอาผิดได้
ด้าน นายเฉลิมเกียรติ สุดสาคร ผู้อำนวยการ ส่วนยุทธการ ด้านป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟไหม้ป่า ยืนยันว่าที่ผ่านมา ไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้มีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมีความพยายามในการตรวจสอบมาโดยตลอด ส่วนที่ดินทั้งหมดที่ส่วนใหญ่พบว่าเป็นพื้นที่ทางการเกษตรขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำหมายประกาศเป็นที่หวงห้ามและห้ามเข้าใช้ประโยชน์แล้ว ขณะที่ เรื่องค่าเสียหายทางแพ่ง อยู่ระหว่างพิจารณาเอกสารโฉนดที่ดินจากกรมที่ดิน เพื่อนำมาประเมินและพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ให้ได้ตัวเลขความเสียหายที่ชัดเจน โดยราคาประเมินที่ดินบริเวณดังกล่าวตกอยู่ที่ประมาณไร่ละ 8 หมื่นถึง 1.5 แสนบาทต่อไร่
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีทั้งหมดของ นายเปรมชัย พนักงานอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องไปทั้งหมดแล้วเหลือเพียง สำนวนของตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ฐานร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงาน เท่านั้น ที่พนักงานอัยการยังไม่มีความเห็นสั่งฟ้อง และหลังจากนี้ยังไม่มีการพิจารณาเอาผิดกับนายเปรมชัยเพิ่มเติม