'พีมูฟ'ทำข้อตกลงร่วมกษ. แก้ปํญหาที่ดินทับซ้อนส.ป.ก.
ม็อบพีมูฟ ทำข้อตกลงร่วมกับ กษ.แก้ไขปัญหาข้อพิพาท ทับซ้อนพื้นที่ส.ป.ก. กับพื้นที่ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติ ชาวบ้านเดือดร้อนเข้าไปทำกินในที่ตนเองโดนจับ ประกาศปักหลักยาวถึง 16 พ.ค.
เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น.ส.จริยา สุทธิไชยา รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ ได้ร่วมประชุมแก้ไขปัญหาข้อเรียกร้องของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ มีสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยแกนนำกลุ่มพีมูฟ ได้เสนอให้แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ส.ป.ก. ที่ยังไม่ได้จัดสรรสิทธิและทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติและป่าไม้ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนมาหลายสิบปีเข้าไปทำกินโดนจับ รวมทั้งพื้นที่ส.ป.ก.แปลงใหญ่กว่า 500 ไร่ ที่ได้รับผลกระทบจากการยึดคืนตามมาตรา 44 คำสั่งที่ 36/2559 รวมกว่า 3 พันไร่ จ.สุราษฎร์ธานี และจากการประกาศเขตเศรษฐกิจพิเศษ แม่สอด จ.ตาก ซึ่งการหารือใช้เวลา 3 ชั่วโมง ได้ข้อยุติทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันโดยมีการลงรายชื่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการประชุมวันนี้ไว้ด้วย
ด้านนายธีรเนตร ไชยสุวรรณ แกนนำชุมชนคลองไทรพัฒนา จ.สุราษฏร์ธานี กล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มสวนปาล์มไทรทองพัฒนา ได้บุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก.เนื้อที่กว่า 1.6 พันไร่และต่อมาถูกศาลฎีกาพิพากษาให้คืนพื้นที่ให้กับส.ป.ก. แต่ปรากฏว่านายทุนไม่ยอมออก ยังเก็บผลผลิตต่อ จึงทำให้เกิดข้อพิพาทกับชาวบ้านกว่า 70 ครอบครัวได้เข้าจับจองพื้นที่ตั้งแต่ปี 2557 จนถูกยิงตายไป 4 ราย ต่อมารัฐบาลนี้ใช้มาตรา 44 ยึดคืนให้คทช. ไปจัดพื้นที่ให้รายละ5-6 ไร่ แต่ยิ่งทำให้เพิ่มปัญหาซ้ำซ้อนเกิดความขัดแย้งรุนแรงบานปลาย เพราะคทช.จะจัดเกษตรกรรายใหม่ลงไปในพื้นที่ตามที่จังหวัด กำหนด ดังนั้นทางกลุ่มขอให้ชะลอการจัดที่ดินตามแนวทางคทช.รายละ 6 ไร่ออกไปก่อน ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รีบลงไปดูพื้นที่จริงตามที่เคยรับปากกับแกนนำไว้เมื่อ19มี.ค.61 จนถึงขณะนี้ยังไม่เคยมีการนัดลงพื้นที่เลย