จับ 3 แกนนำพีมูฟ ที่ด่านแม่ทา จ.ลำพูน สกัดร่วมชุมนุมกรุงเทพฯ
ผิดพ.ร.บ.ชุมนุมที่สาธารณะ! พีมูฟภาคเหนือถูกสะกัด จับ 3 แกนนำและควบคุมตัวไม่ให้เดินทางมากรุงเทพ ฯ ร่วมกิจกรรม
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานความคืบหน้า เมื่อเวลา ประมาณ 15.45 น. วันที่ 2 พ.ค. 2561 ที่อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ สนธิกำลังเข้าจับกุมแกนนำชาวบ้าน สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ ที่ต้องการไปร่วมชุมนุมกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-move) โดยเจ้าหน้าที่รัฐได้ทำการสกัดกั้นไม่ให้ชาวบ้านเดินทางมายังกรุงเทพเพื่อร่วมชุมนุมเป็นเวลาเกือบ 24 ชั่วโมงแล้ว
ทั้งนี้ แกนนำที่ถูกจับตัวไปมีทั้งหมด 3 นาย คือ 1.นายประยงค์ ดอกลำใย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม 2. นายสุแก้ว ฟุงฟู รองประธานสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ 3. นาย รังสรรค์ แสนสองแคว ประธานโฉนดชุมชนบ้านไร่ดง
เบื้องต้น นายทหารท่านหนึ่่งที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้ทำการชี้แจงกับประชาชนที่เหลือว่า มีความจำเป็นต้องทำ เพราะได้รับความเห็นชอบจากหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติเนื่องจาก ชาวบ้านได้กระทำความผิดฐาน ชุมนุมในที่สาธารณะ ซึ่งผิด พ.ร.บ. ชุมนุมที่สาธารณะ พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นความผิดที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่งเพราะเป็นการกระทำที่ขัดต่อความมั่นคงและความสงบสุขของชาติและอาจส่งผลร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจ
จากนั้นในเวลาไม่ถึง 15 นาที นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้เดินทางเข้ามาพบผู้ชุมนุมที่ถูกกักตัวอยู่ที่ด่านแม่ทา โดยพยายามให้พี่น้องประชาชนกลับบ้าน โดยมีคำพูดตอนหนึ่งพูดว่า “เราไม่ได้กักตัวพี่น้องประชาชน เราพร้อมที่จะให้พี่น้องประชาชนกลับบ้าน” แต่ในความเป็นจริงแล้วชาวบ้านมีความต้องการที่จะไปร่วมชุมนุมกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ยังได้กล่าวว่า ชาวบ้านที่ถูกกักตัวอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ก็ได้กลับบ้านไปแล้วเช่นกัน พร้อมกับขอให้พี่น้องประชาชนฝากเรื่องเอา และจะเป็นคนดำเนินเรื่องให้พี่น้องประชาชนเอง
ทั้งนี้ การชุมนุมของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่มีขึ้นในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 นี้ เป็นผลจากการที่ชาวบ้านรู้สึกว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดำเนินการมาตลอดระยะเวลา 4 ปี โดยรัฐบาล คสช. นั้นไม่คืบหน้าและทำให้สถาการณ์แย่ลง โดยมีรูปธรรมที่เกิดขึ้น อย่างเช่น
การมีนโยบายให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี การดำเนินการทางด้านกฎหมายกับพี่่น้องในเครือข่าย P-move อย่างเข้มงวด มีการจำคุกชาวบ้าน ไล่รื้อบ้านเรือนพืชผลอาสินของชาวบ้าน ในขณะเดียวกันภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ก็ดูเหมือนจะไม่สามารถแก้ปัญหาการกระจุกตัวในการถือครองที่ดินได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าเจ้าหน้าจับตัวแกนนำทั้ง 3 คนไปไว้ที่ใด