กรมบัญชีกลาง ชี้เริ่มจ่ายเงินสงเคราะห์ พม.เข้าบัญชีโดยตรง ตั้งแต่ 1 พ.ค.
กรมบัญชีกลางพร้อมจะสนับสนุนการโอนเงินสงเคราะห์ที่เคยได้รับจากหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิโดยตรง เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 เป็นต้นไป ส่วนราชการในสังกัดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะเริ่มจ่ายเงินสงเคราะห์ให้แก่ผู้มีสิทธิโดยการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนผู้มีสิทธิเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการรับจ่ายเงินภาครัฐทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment ภาครัฐ) ตามแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment อีกด้วย
สำหรับเงินสงเคราะห์ที่จะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิ ประกอบด้วย
- เงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน ของสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- เงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง ค่าใช้จ่ายโครงการรณรงค์เพื่อป้องกันเอดส์ เงินทุนประกอบอาชีพ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับตัวชาวเขา และเงินอุดหนุนช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
- เงินช่วยเหลือสตรีหรือครอบครัวที่ประสบปัญหาทางสังคม ของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว
- เงินอุดหนุนสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
- เงินสงเคราะห์เด็กครอบครัวยากจน/ขาดแคลน/ฝากเลี้ยงตามบ้าน ของกรมกิจการเด็กและเยาวชน
- เงินที่จ่ายให้แก่ผู้สูงอายุตามความจำเป็น ของกรมกิจการผู้สูงอายุ
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวในตอนท้ายว่า การเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายเงินแบบเดิมเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิโดยตรง ถือเป็นมาตรการหนึ่งในการดูแลผู้ประสบปัญหาทางสังคมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดความโปร่งใส และลดความซ้ำซ้อน ซึ่งจะทำให้ผู้ประสบปัญหาทางสังคมได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย และคาดว่าจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและบรรเทาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
นักวิชาการ มธ.ชี้มาตรการใหม่ โอนเงิน ‘สงเคราะห์คนจน’ ผ่านแบงก์ แก้ทุจริตเเค่เฉพาะหน้า
ทุ่มเงินสงเคราะห์แสนล้าน/ปี ไร้ผล นักวิชาการตีแผ่ความเหลื่อมล้ำ-ยากจน ไม่ดีขึ้นเลย