จัดหาเงินทุนเพื่อดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ให้ธกส.
วันที่ 1 พฤษภาคม คณะรัฐมนตรีอนุมัติเพิ่มเติมตามมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 และข้อเสนอของ กระทรวงการคลัง (กค.) สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ตามที่ กค. เสนอ ดังนี้
1. ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) แยกบัญชีการดำเนินงานและบัญชีธนาคารของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 โดยเฉพาะ เพื่อให้สำนักงบประมาณ (สงป.) จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีชำระคืน ธ.ก.ส. ภายใต้โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ให้เสร็จสิ้นทุกสิ้นปีงบประมาณหรือไม่เกินปีงบประมาณถัดไปตามผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงจากการจำหน่ายข้าว โดยไม่ต้องรอให้มีการระบายผลิตผลเสร็จสิ้นก่อน เพื่อให้มีการรับรู้กำไร/ขาดทุนจากการจำนำข้าวในปีนั้น ๆ การชดเชยต้นทุนเงินและค่าใช้จ่ายดำเนินงาน รวมทั้งเงินที่ใช้ในการดำเนินงานโครงการทั้งในส่วนของ ธ.ก.ส. และส่วนที่กู้จากสถาบันการเงิน เพื่อมิให้เป็นภาระงบประมาณด้านดอกเบี้ยจ่ายจากหนี้คงค้างโครงการเป็นเวลานาน รวมทั้งเพื่อให้ ธ.ก.ส. สามารถนำเงินไปหมุนเวียนเพื่อใช้ในโครงการอื่นในปีต่อ ๆ ไป หากมีกำไรเกิดขึ้นจากการดำเนินงานหลังจากการระบายผลผลิตหรือสิ้นสุดโครงการฯ ให้ ธ.ก.ส. นำเงินส่งคลังทันที
2. ให้หน่วยงานดำเนินการที่ได้จำหน่ายสินค้าตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ได้แก่ องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เมื่อได้รับชำระค่าสินค้าแล้วให้นำส่งเงินดังกล่าวแก่ ธ.ก.ส. ทันที และ/หรือภายใน 30 วันนับจากวันที่ได้รับเงิน หากล่าช้าให้ชำระเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีสำหรับดอกผลที่เกิดขึ้นจากการเก็บรักษาเงินค่าชำระสินค้า ให้หน่วยงานดำเนินการนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินทันที เนื่องจากเป็นโครงการที่รัฐบาลรับภาระและเป็นรายได้ที่ อคส. และ อ.ต.ก. ไม่พึงได้ ทั้งนี้ เพื่อที่ ธ.ก.ส. จะได้นำไปชำระหนี้และลดภาระหนี้เงินกู้ต่อไป
3. ให้กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) โดยกรมการค้าต่างประเทศรายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินงาน ระบายข้าว ปริมาณและมูลค่าสินค้าคงเหลือ รวมทั้งปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นครั้งคราวตามความเห็นชอบของ กขช. หรือตามที่เห็นเหมาะสม โดยไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง ต่อปี เพื่อให้คณะรัฐมนตรีมีข้อมูลในการตัดสินใจได้ทันที
4. ให้ อคส. และ อ.ต.ก. จัดทำเอกสาร/หลักฐานสำหรับเก็บข้อมูลปริมาณข้าวสารที่ได้จากการสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร คุณภาพ และปริมาณข้าวสารที่นำออกจากโกดังเป็นรายเดือน แล้วแจ้งให้ ธ.ก.ส. ทราบปริมาณข้าวสารและจำนวนเงินที่ได้รับสำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 และเป็นหลักฐานในการตรวจสอบต่อไป
5. สำหรับโครงการรับจำนำผลิตผลทางการเกษตร ปีการผลิต 2551/52 ให้ อคส. และ อ.ต.ก. สำรวจปริมาณสินค้าในสต็อกของรัฐบาลที่เหลืออยู่พร้อมทั้งประเมิณมูลค่าของสินค้าที่เหลืออยู่และรายงานให้คณะรัฐมนตรีและ กค. ทราบตามความเหมาะสมสำหรับการชำระค่าสินค้าในสต็อกรัฐบาลให้ดำเนินการเช่นเดียวกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55
6. ให้ ธ.ก.ส. กู้เงินเพื่อบริหารจัดการหนี้เงินกู้ด้วยการ Refinance หรือ Roll over หรือ Prepayment โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันสำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 วงเงินไม่เกิน 269,160 ล้านบาท จนกว่าจะมีการชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้น โดยรัฐบาลรับภาระชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ยจากการกู้เงินและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจริง รวมทั้งผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจากโครงการทั้งหมด
7. ให้ กค. เป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ของ ธ.ก.ส. ที่เกิดจากการกู้เงินและการบริหารจัดการหนี้ของ ธ.ก.ส. โดย กค. ค้ำประกันเงินกู้ในแต่ละครั้ง ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 จำนวนไม่เกิน 269,160 ล้านบาท ได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น รวมทั้งการบริหารจัดการหนี้ร่วมกับ ธ.ก.ส. ด้วยการ Refinance หรือ Roll over หรือ Prepayment โดย กค. ค้ำประกันจนกว่าจะมีการชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้น รัฐบาลรับภาระชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ยจากการกู้เงิน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจริง รวมทั้งผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจากโครงการทั้งหมดโครงการแก้ไขปัญหาสับปะรดปี 2555คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการ
โครงการแก้ไขปัญหาสับปะรดปี 2555
ตามที่คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเสนอ โดยการรับซื้อสับปะรดสดส่วนเกินในจังหวัดแหล่งผลิต จำนวน 200,000 ตัน เพื่อนำออกนอกระบบปกติ แล้วนำไปทำอาหารสัตว์ ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ และแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง กำหนดระยะเวลาดำเนินการ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2555 ระยะเวลาโครงการ 1 เมษายน 2555 – 28 กุมภาพันธ์ 2556 โดยให้ใช้เงินจากงบกลางสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ อีกทั้ง ให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อทำหน้าที่กำหนดกรอบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการรับซื้อ ตลอดจนการจัดทำแผนการ ใช้เงิน การเบิกจ่ายเงิน รวมทั้งจัดทำแผนการระบายจำหน่ายสับปะรดกระป๋อง ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย