เปิดภาพชุด ก่อนเป็นอดีตชุมชน 'ป้อมมหากาฬ'
การปรับสภาพพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬ กทม.ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 69 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปรับปรุงป้อมมหากาฬและกำแพงเมืองเก่า ภายใต้แผนปฏิบัติการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณป้อมมหากาฬ แนวกำแพงเมือง และบริเวณโดยรอบ พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมตั้งศาลพระภูมิคู่กับป้อมแห่งนี้ บริเวณทิศใต้อีกด้วย
"แต่งนะไม่ใช่ตัด ตัดแต่งกิ่งต้นไม้ออก ต้นไม้ทุกต้นต้องเอาไว้ ส่วนต้นกล้วย มะละกอ พวกนี้เอาออก" พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งการขณะเดินทางมาตรวจความเรียบร้อยแนวทางการพัฒนาพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬ บ่ายวันที่ 25 เมษายน ขณะเจ้าหน้าที่ กทม.กำลังนำรถแมคโค พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เข้ารื้อบ้าน พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่เป็นสวนสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ผู้ว่าฯ กทม.ยืนยันเจตนารมณ์กรุงเทพมหานครที่ต้องการอนุรักษ์ป้อมมหากาฬ ซึ่งเป็นป้อมปราการของนครหลวงหลังจากได้ย้ายมาจากกรุงธนบุรี ซึ่งมีทั้งหมด 16 ป้อม มีชำรุดทรุดโทรมไปบ้าง เหลือเป็นหลักฐาน ได้แก่ ป้อมพระสุเมรุ ท่าพระอาทิตย์ และป้อมมหากาฬ จุดนี้มีพื้นที่เกือบ 5 ไร่
"วันนี้พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือรื้อย้ายบ้านไปเกือบหมดแล้ว เหลือ 7 หลังสุดท้าย คาดวันที่ 29 เมษายน 2561 การรื้อย้ายจะเสร็จเรียบร้อย จากนั้นกรุงเทพมหานครจะเข้ามาตัดแต่ง ต้นไม้ที่ไม่สวยงาม ขุดดิน เก็บขยะออกให้หมด"
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวถึงแผนการพัฒนาต่อจากนี้จะติดไฟส่องสว่าง ตามกำแพง มีเทศกิจคอยดูแลและอำนวยความสะดวก รวมถึงริมคลองจะขยายเป็นทางเท้าออกไป ทำราวกันตก ซึ่งสำนักการระบายน้ำออกแบบไว้เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่า สัปดาห์นี้จะเสร็จเรียบร้อยทั้งหมด ก่อนสำนักสิ่งแวดล้อมเข้าพื้นที่ปรับปรุงปลูกหญ้าพื้นที่โดยรอบให้เป็นพื้นที่สีเขียว ส่วนสำนักโยธา จะเข้ามาตั้งเสาไฟฟ้า และมีการปรับปรุงป้อมที่ทรุดโทรม ทาสีใหม่ให้สวยงาม ส่วนพื้นทางเท้าที่ชำรุดเสียหายก็จะมีการปรับปรุงด้วย
ส่วนการอนุรักษ์บ้านโบราณ บริเวณป้อมมหากาฬ ผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า ใจจริงอยากอนุรักษ์ไว้ แต่เมื่อตัวบ้านเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านขอรื้อเอง ทางกทม.ก็ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกขนไปส่งให้เท่านั้น ดังนั้น สรุปว่าพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬจึงไม่มีบ้านเหลือสักหลัง เราจะเห็นบางหลังผุพังหมดแล้ว อีกทั้งเจ้าของแสดงความประสงค์ต้องการรื้อไปปลูกที่ใหม่เอง
"ใครที่คิดถึงอดีตเก่า หรือคนในชุมชนที่เคยอยู่อยากมาช่วยดูแล กทม.ยินดี ยืนยันว่า จะไม่มีการสร้างอะไรเป็นที่อยู่อาศัยถาวร ยกเว้นศาลพระภูมิ"ผู้ว่าฯ กทม.ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และปฏิเสธจะเดินเข้าไปดูเจ้าหน้าที่กำลังทำการรื้อบ้านของชุมชน
พร้อมระบุทิ้งท้ายก่อนเดินจากไป "พอวันจันทร์ก็ไม่มีอะไร...เหลือแต่อดีต"
สำหรับการปรับสภาพพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬ กทม.ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 69 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปรับปรุงป้อมมหากาฬและกำแพงเมืองเก่า ภายใต้แผนปฏิบัติการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณป้อมมหากาฬ แนวกำแพงเมือง และบริเวณโดยรอบ พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมตั้งศาลพระภูมิคู่กับป้อมแห่งนี้ บริเวณทิศใต้อีกด้วย