ไม่ล้ม! ออฟฟิเชียล-สติกเกอร์ไลน์ 7 ล้าน "สำนักนายกฯ" เดินหน้าประกาศ "ไลน์ คอมพานี" เป็นผู้ชนะเสนอราคา
ไม่ล้ม! "ออฟฟิเชียล-สติกเกอร์ไลน์" มูลค่า 7 ล้าน "สำนักนายกฯ" เดินหน้าประกาศ "ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย)" เป็นผู้ชนะการเสนอราคา ประชาสัมพันธ์ข่าวสารรัฐบาลเซิงรุก โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ย้ำ! เป็นตัวแทนผู้ให้บริการโดยชอบด้วยกฎหมายเพียงรายเดียวในประเทศไทย
วันนี้ (22 เม.ย.) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า แม้จะมีกระแสคัดค้านจากหลายฝ่าย รวมถึงนักการเมืองอย่างเช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถึงความคุมค่า กรณีที่ สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เตรียมใช้งบประมาณ 7 ล้านบาทเศษ จ้างทำ LINE Official Account เพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารรัฐบาลเซิงรุก โดยวิธีเฉพาะเจาะจง แม้นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะชี้แจงว่าการจัดทำสติกเกอร์ไลน์นั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการกำหนดแนวคิด ยังไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 เม.ย. สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ออกประกาศ เรื่อง ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา จ้างทำ LINE Official Account เพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารรัฐบาลเชิงรุก โดยวิธีเฉพาะเจาะจง มีใจความว่า ตามที่ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติ ตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานกำหนด จำนวน 1 ราย เข้ายื่นข้อเสนอ สำหรับการจ้างทำ LINE Official Account เพื่อประขาสัมพันธ์ข่าวสารรัฐบาลเชิงรุก โดยวิธีเฉพาะเจาะจง นั้น
"การจ้างทำ LINE Official Account เพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารรัฐบาลเชิงรุกดังกล่าว ผู้ได้รับการคัดเลือก ได้แก่ บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ให้บริการโดยชอบด้วยกฎหมายเพียงรายเดียวในประเทศไทย และได้ยื่นเอกสารการเสนอราคาครบถ้วน ถูกต้อง มีคุณสมบัติ และข้อเสนอทางด้านเทคนิค ครบถ้วน ถูกต้อง ตามเงื่อนไขที่หน่วยงานกำหนด โดยเสนอราคา เป็นเงินทั้งสิ้น 7,029,900.00 บาท (เจ็ดล้านสองหมื่นเถ้าพันเก้าร้อยบาทถ้วน) ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีอื่น ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งปวง ไว้ด้วยแล้ว ลงนามโดย นางสาวปราณี ศรีประเสริฐ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ปฏิบัติราขการแทน เลขาธิการนายกรัฐมนตรี"
มีรายงานว่า เมื่อก่อนเทศกาลสงกรานต์ สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จัดทำข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง (TOR) ให้บริษัท บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด จัดทำ LINE Official Account เพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารรัฐบาลเชิงรุก โดยจ้างให้บริการด้านระบบ Line Official Account และ Line Official Home ระยะเวลาดำเนินการ 12 เดือน จำนวน 1 งาน วงเงิน 4,320,000 บาท ประกอบด้วย 1. Line Official Account (OA) จำนวน 24 ข้อความต่อเดือน ในรูปแบบ ตัวอักษร รูปภาพ วิดีโอ ไฟล์เสียง หรือลิงก์ต่าง ๆ ผ่านฟังก์ชัน Rich Message และ Rich Video และ 2. Line Official Home (OH) จำนวน 60 ข้อความต่อเดือน รวมทั้งให้บริการด้านระบบ Line Sticker (8 characters) ที่ออกแบบโดยสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการ นายกรัฐมนตรี ระยะเวลาดาวน์โหลด 30 วัน และใช้งานได้ 90 วัน จำนวน 1 งาน วงเงิน 2,240,000 บาท รวมเป็นเงิน 6,570,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จำนวน 449,900 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 7,029,900 บาท
ทั้งนี้ มีข่าวลือว่า นโยบายดังกล่าวเป็นของ พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดำเนินการตามนโยบายนายกรัฐมนตรี แต่ในวันที่ 12 เม.ย. 2561 พล.ท. สรรเสริญ ออกมาปฏิเสธว่าการจัดจ้างดังกล่าวนั้นไม่ใช่นโยบายของตน เพราะตนเป็นข้าราชการการเมืองของสำนักโฆษกประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ย่อมไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณได้ พร้อมทั้งระบุด้วยว่าเป็นนโยบายที่ผู้อำนวยการสำนักโฆษกฯ ต่อเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ต่อมา นัทรียา ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า การจัดจ้างดังกล่าวเป็นหนึ่งในแผนการดำเนินงานประจำปีของสำนักโฆษกฯ ซึ่งมีภารกิจเผยแพร่นโยบายและการดำเนินงานของรัฐบาล เป็นการดำเนินการตามแผนการปฏิบัติราชการ โดยไม่ได้เป็นข้อริเริ่มของฝ่ายการเมือง ตามที่นำไปพาดพิงกันแต่อย่างใด ปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่สื่อสารข้อมูลในชีวิตประจำวันถึงกันด้วยแอปพลิเคชันไลน์ ดังนั้น สำนักโฆษกฯ จึงมีความประสงค์จะเพิ่มช่องทางการสื่อสารไปยังประชาชน เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย โดยแม้ว่าจะเปลี่ยนรัฐบาล แต่ช่องทางไลน์นี้ก็ยังคงเป็นเครื่องมือสื่อสารสำหรับรัฐบาลต่อไป
วัตถุประสงค์ของการใช้เครื่องมือดังกล่าว คือ การสร้างการรับรู้นโยบายสำคัญ หรือการอธิบายข้อมูลที่สังคมเกิดความสับสนหรือเข้าใจผิด เพื่อลดความตื่นตระหนก แหล่งที่มาของราคากลาง จำนวน 7,029,900 บาท ใช้ราคาตลาด โดยสืบราคาจากบริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นราคามาตรฐานที่ให้บริการแก่หน่วยงานอื่นของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ สลน. ได้ประกาศราคากลางทางเว็บไซต์ และประกาศทางเว็บไซต์ของกรมบัญชีกลางเช่นเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้.
ที่มาข่าว:https://mgronline.com/politics/detail/9610000039654