'ธนินท์ เจียรวนนท์' ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพบปะ 'สี จิ้นผิง' ใน Boao Forum for Asia 2018
ประธานาธิบดี 'สี จิ้นผิง' พบนักธุรกิจจีนและนักธุรกิจต่างประเทศในงานประชุม Boao Forum for Asia 2018 ในการนี้ 'ธนินท์ เจียรวนนท์' ได้ร่วมพบและแสดงความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจและสังคม
เมื่อเร็วๆ นี้ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ได้ร่วมงานประชุมประจำปี Boao Forum for Asia 2018 ที่มณฑลไห่หนาน ในโอกาสนี้ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ได้พบและสนทนากับตัวแทนนักธุรกิจจีนและนักธุรกิจจากต่างประเทศที่มาร่วมงานประชุมดังกล่าวด้วยเพื่อรับฟังความเห็นด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ในการนี้ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ในฐานะนายกสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเล และประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็น 1 ใน 9 ตัวแทนจากจีนและทั่วโลกซึ่งได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้แสดงความคิดเห็นต่อประธานาธิบดีจีนด้วย
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ได้เน้นย้ำว่า ประเทศจีนยืนยันหนักแน่นในการพัฒนาเศรษฐกิจโลกแบบเสรี อันจะเป็นประโยชน์ต่อภูมิภาคเอเชียและโลก ประเทศจีนยินดีต้อนรับธุรกิจจีนและต่างประเทศในการเข้าร่วมการเร่งพัฒนาเศรษฐกิจของจีน และจะได้รับประโยชน์ร่วมกันจากการปฏิรูป เปิดเสรี และการพัฒนาของประเทศจีน นอกจากนี้ ประเทศจีนจะสร้างบรรยากาศการลงทุนที่เปิดกว้างมากขึ้น ให้กับธุรกิจจีนและธุรกิจต่างประเทศ ประธานาธิบดีสี หวังว่านักธุรกิจทุกคนจะเข้ามามีบทบาทในเส้นทางการปฏิรูปและการเปิดเสรีของประเทศจีน ทำให้เกิดการพัฒนาที่มากขึ้น
ในการนี้ ตัวแทนนักธุรกิจจีนและต่างประเทศที่ได้รับการคัดเลือกในการเข้าร่วมสนทนามีประมาณ 30 ท่าน โดยมีเพียง 9 ท่านเท่านั้นที่จะมีโอกาสแสดงความคิดเห็นต่อประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ซึ่งปรากฏว่า นายธนินท์ เจียรวนนท์ ได้เป็นนักธุรกิจท่านแรกที่ได้แสดงความคิดเห็น โดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้กล่าวแนะนำนายธนินท์ต่อผู้เข้าร่วมประชุม และยังกล่าวชมซีพีที่มีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาการเกษตรของประเทศจีนตลอด 40 ปี ตั้งแต่ที่ได้เข้ามาลงทุนในประเทศจีน
ทั้งนี้ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ในฐานะนายกสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเล และประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แสดงความคิดเห็นด้านการพัฒนาเกษตรกรรม โดยเฉพาะเกษตรกรรมสมัยใหม่ยุค 4.0 ด้านการช่วยเหลือคนยากจนและผู้มีรายได้น้อย การใช้ห่วงโซ่การผลิตสร้างอาชีพให้เกษตรกร และสุดท้ายได้กล่าวถึงโอกาสและการมีส่วนร่วมของไทยในโครงการ One Belt One Road รวมถึงให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวที่จะเชื่อมต่อกับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของประเทศไทย