โชว์หลักฐานอบจ.เชียงใหม่จ้างอดีตผอ.สำนักการช่างทำงานต่อ-เมินป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง?
"...จากการสอบถามข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ อบจ.เชียงใหม่ เพิ่มเติม สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันว่า ไม่เคยมีใครทราบเรื่องการลงโทษทางวินัยที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกับ นายสมศักดิ์ มาก่อน คำถามที่น่าสนใจ และเป็นประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ คือ หลังจากที่ นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ทำหนังสือแจ้งถึง นายกอบจ.เชียงใหม่ เป็นทางการ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ต.ค.2560 ได้มีการดำเนินการสั่งลงโทษทางวินัย นายสมศักดิ์ ไปแล้วหรือยัง?.."
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที!
เมื่อสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ได้ลงนามในหนังสือลงวันที่ 27 ต.ค.2560 แจ้งถึง นายกองค์การบริหารสวนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เพื่อขอให้พิจารณาลงโทษทางวินัย นายสมศักดิ์ ลาภอดิศร ผู้ถูกกล่าวหา ในฐานะเป็นคณะกรรมการกำหนดราคากลางโครงการงานจ้างก่อสร้างปรับปรุงตลิ่งริมแม่น้ำน่าน ระยะที่ 3 พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำน่านฝังตะวันตก ตามสัญญาจ้างเลขที่ 16/2546 ลงวันที่ 20 มี.ค.2546 ของเทศบาลนครพิษณุโลก หลังถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง และแจ้งรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงพร้อมเอกสารประกอบให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษทางวินัย ตามสำเนาหนังสือ ป.ป.ช.ลงวันที่ 10 ต.ค.2560
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ อบจ.เชียงใหม่ ว่า นายสมศักดิ์ เกษียณอายุราชการไปแล้ว เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2560 ที่ผ่านมา โดยตำแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุ คือ ผู้อำนวยการสำนักการช่าง อบจ.เชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2561 ที่ผ่านมา อบจ.เชียงใหม่ ได้ออกประกาศว่าจ้าง นายสมศักดิ์ ให้ทำงานต่อในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ด้านวิศวกรรมโยธา และเข้ามาทำงานที่อบจ.เชียงใหม่ตามปกติ
แต่ไม่มีการยืนยันข้อมูลเป็นทางการว่า นายก อบจ.เชียงใหม่ ได้พิจารณาสั่งโทษทางวินัยนายสมศักดิ์ ตามผลการชี้มูลของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปแล้วหรือไม่ (อ่านประกอบ : พบ อบจ.เชียงใหม่ จ้างอดีตผอ.สำนักการช่างทำงานต่อ ทั้งที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบฐานข้อมูลเอกสาร อบจ.เชียงใหม่ พบว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.2561 นายไพรัช ใหม่ชมภู รองนายก อบจ.เชียงใหม่ รักษาราชการแทนนายกอบจ.เชียงใหม่ (นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกอบจ.เชียงใหม่ โดนคำสั่ง ม.44 ระงับการปฎิบัติหน้าที่) ได้ลงนามในบันทึกข้อความแจ้งประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินสมรรถนะ ในการสรรหาและเลือกสรรบุคคล เพื่อจ้างเป็นพนักงานจ้างของ อบจ. ประเภทพนักงานจ้างผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
ปรากฎชื่อ ผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินสมรรถนะ ตำแหน่งพนักงานจ้างผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ด้านวิศวกรรมโยธา คือ นายสมศักดิ์ ลาภอดิศร (ดูเอกสารประกอบ)
ซึ่งตรงกับข้อมูลที่สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ อบจ.เชียงใหม่ ว่า ปัจจุบัน นายสมศักดิ์ มีตำแหน่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา และยังเข้ามาทำงานที่อบจ.เชียงใหม่ตามปกติ หลังจากที่เกษียณอายุราชการ ในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักการช่าง อบจ.เชียงใหม่ ไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2560 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า หนังสือ ป.ป.ช. ที่แจ้งชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง และส่งรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงพร้อมเอกสารประกอบให้ผู้บังคับบัญชา ลงโทษ นายสมศักดิ์ ลาภอดิศร ในฐานะเป็นคณะกรรมการกำหนดราคากลางโครงการงานจ้างก่อสร้างปรับปรุงตลิ่งริมแม่น้ำน่าน ระยะที่ 3 พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำน่านฝังตะวันตก ตามสัญญาจ้างเลขที่ 16/2546 ลงวันที่ 20 มี.ค.2546 ของเทศบาลนครพิษณุโลก ถูกส่งไปยังเทศบาลนครพิษณุโลก ตามหนังสือ ป.ป.ช.ลงวันที่ 10 ต.ค.2560
จากนั้นผ่านไป 17 วัน นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ได้ลงนามในหนังสือลงวันที่ 27 ต.ค.2560 ถึงนายกอบจ. เชียงใหม่ ให้ลงโทษทางวินัยกับ นายสมศักดิ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรง เนื่องจากนายสมศักดิ์ ได้ย้ายงานจากเทศบาลนครพิษณุโลก ไปอยู่ที่ อบจ.เชียงใหม่นานแล้ว จึงต้องส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาของนายสมศักดิ์โดยตรงพิจารณาดำเนินการตามมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ขณะที่ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 91, 92 และ 93 บัญญัติว่า เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริง แล้วมีมติว่าข้อกล่าวหาใดมีมูลความผิดทางวินัย ให้ส่งรายงานและเอกสารที่มีอยู่ พร้อมทั้งความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนผู้ถูกกล่าวหาผู้นั้นเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติโดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอีก โดยในการพิจารณาโทษทางวินัยแก่ผู้ถูกกล่าวหาให้ถือว่ารายงานเอกสารและความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นสำนวนการสอบสวนทางวินัยของคณะกรรมการสอบสวนวินัย ตามกฎหมายหรือระเบียบหรือข้อบังคับว่าด้วยการ บริหารงานบุคคลของผู้ถูกกล่าวหานั้น ๆ แล้วแต่กรณี และเมื่อรับเรื่องแล้วให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนพิจารณาลงโทษภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่อง และให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนส่งสำเนาคำสั่งลงโทษดังกล่าวไปให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบภายใน สิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ออกคำสั่ง หากนับร่วมระยะเวลาทั้งหมดจะอยู่ที่ 45 วัน ซึ่งปัจจุบันเวลาล่วงเลยมานานแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ อบจ.เชียงใหม่ เพิ่มเติม สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันว่า ไม่เคยมีใครทราบเรื่องการลงโทษทางวินัยที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกับ นายสมศักดิ์ มาก่อน
คำถามที่น่าสนใจ และเป็นประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ คือ หลังจากที่ นายบุญทรง แทนธานี นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ทำหนังสือแจ้งถึง นายกอบจ.เชียงใหม่ เป็นทางการ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ต.ค.2560 ได้มีการดำเนินการสั่งลงโทษทางวินัย นายสมศักดิ์ ไปแล้วหรือยัง?
ล่าสุดในช่วงบ่ายวันที่ 18 เม.ย.2561 สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังอบจ.เชียงใหม่ เพื่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหารอบจ.เชียงใหม่ ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อีกครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยเจ้าหน้าที่ อบจ.เชียงใหม่ แจ้งว่า ผู้บริการติดภารกิจประชุม ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์