กรมคุมประพฤติเผย 5 วันสถิติเมาแล้วขับพุ่งกว่า 6 พันคดี ศาลสั่งติด EM 37 ราย

วันที่ห้าของ 7 วันอันตราย กรมคุมประพฤติ ติดเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์กับผู้กระทำผิดในคดีเมาแล้วขับ 37ราย ตามคำสั่งศาล ซึ่งกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกบ้าน เวลา 22.00 – 04.00 นาฬิกา เป็นเวลา 15 วัน

วันที่ 15 เมษายน 2561 นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า วันที่ห้าของ 7 วันอันตราย กรมคุมประพฤติได้ดำเนินการติดเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์กับผู้กระทำผิดในคดีเมาแล้วขับ ตามคำสั่งศาล ซึ่งกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกบ้าน เวลา 22.00 – 04.00 นาฬิกา เป็นเวลา 15 วัน นอกจากนี้ ผู้กระทำผิดดังกล่าวยังมีเงื่อนไขการคุมความประพฤติ 1 ปี รายงานตัวจำนวน 4 ครั้ง พร้อมทั้งทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง โดยมีสำนักงานคุมประพฤตินำร่อง ได้แก่ สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 2 (ประจำศาลแขวงพระนครเหนือ) จำนวน 27 ราย และสำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 12 (ประจำศาลแขวงดอนเมือง) จำนวน 1 ราย ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน รวมทั้งหมด จำนวน 37 ราย

สำหรับสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติจากสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ วันที่ 15 เมษายน 2561 จำนวน 3,460 คดี แบ่งเป็น ขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 3,456 คดี ขับรถประมาท จำนวน 4 คดี ยอดสะสม 5 วัน (11-15 เมษายน 2561) มีคดีทั้งหมดจำนวน 6,707 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 6,541 คดี หรือคิดเป็นร้อยละ 97.5, ขับรถประมาท จำนวน 21 คดี หรือคิดเป็นร้อยละ 0.31 แข่งรถหรือขับซิ่ง จำนวน 2 คดี หรือร้อยละ 0.02 ขับเสพ จำนวน 143 คดี หรือคิดเป็นร้อยละ 2.13

ส่วนจังหวัดที่มีสถิติคดีเมาแล้วขับสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเชียงราย จำนวน 455 คดี สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 394 คดี และสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 313 คดี

ทั้งนี้ จากตัวเลขของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ยอดสะสม 4 วัน (11-14 เมษายน 2561) จำนวนครั้งอุบัติเหตุสะสม รวม 2,449 ครั้ง ผู้เสียชีวิตสะสม จำนวน 248 คน ผู้บาดเจ็บสะสม จำนวน 2,557 คน ซึ่งมีสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุอันดับหนึ่ง คือ ดื่มแล้วขับ

ดังนั้น กรมคุมประพฤติ จึงได้ดำเนินการมาตรการเข้มกับผู้ถูกคุมความประพฤติในคดีเมาแล้วขับ โดยจัดให้ทำงานบริการสังคมเพื่อสร้างจิตสำนึกและให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคมประกอบด้วย ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจที่จุดตรวจค้น จุดบริการประชาชน ด่านชุมชน อาสาจราจร จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ จุดตรวจเล่นน้ำสงกรานต์ และกิจกรรมรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ตลอดจนทำความสะอาดบริเวณจุดตรวจค้น รวมทั้งบริการช่วยเหลือประชาชนคนชรา คนพิการ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มารดาพร้อมทารกแรกคลอด และประชาชนที่มีกระเป๋าสัมภาระหลายใบ ที่เดินทางไปต่างจังหวัดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ณ ศูนย์อำนวยการร่วมฯ สถานีขนส่ง