"ยะใส" ชี้ทุกพรรคจ่อแย่งคะแนนเสียงคนรุ่นใหม่
"สุริยะใส" ชี้กระแสคนรุ่นใหม่เป็นโมเมนตัมการเมือง เชื่อทุกพรรคเตรียมแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด ติงขายความใหม่ต้องไม่ใช่แค่สีสันแต่ต้องปฏิบัติการณ์ได้จริง
เมื่อวันที่ 8 เม.ย.นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงกระแสคนรุ่นใหม่ในขณะนี้ ที่ดูเป็นกระแสค่อนข้างสูงกว่าการเลือกตั้งที่ผ่านๆมา และเชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะกลายเป็นโมเมนตัมหรือแรงผลักดันในการการเลือกตั้งครั้งหน้านี้ และโมเมนตัมนี้จะเป็นตลาดการเมืองที่ทุกพรรคการเมืองแย่งชิง เหตุเพราะส่วนหนึ่งนั้นการเมืองไทยผูกขาดโดยคนรุ่นเก่า ตระกูลเก่าไม่กี่กลุ่มมานานเกินไป จนทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าหลังเลือกตั้งจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถ้าได้คนหน้าเดิมๆ กลุ่มเดิมๆเข้ามาบริหารประเทศ ดังนั้นการโหยหาพรรคการเมืองใหม่ๆ คนหน้าใหม่จึงดูเหมือนถูกเรียกร้องจากตลาดการเมืองมากขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านๆมา ที่สำคัญในการเลือกตั้งครั้งหน้าในปี 2562 จะเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 6 ปี ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งสุดท้ายในเดือน ก.ค.54ไม่นับการเลือกตั้งในเดือน ก.พ.57 ที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ
นายสุริยะใส กล่าวว่า ฉะนั้นในรอบ 6 ปี ที่ไม่มีการเลือกตั้งจะมีจำนวนคนอายุ 18 ปี ที่มีสิทธิเลือกตั้งและจะใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกในปี 62 จำนวนหลายล้านคนมากกว่าที่ผ่านมา และอย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี60 ก็มีเจตนารมณ์เพิ่มจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยกำหนดให้ปรับอายุของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ต้องอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ ในวันเลือกตั้ง จากเดิมที่กำหนดให้เป็นอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 1 ม.ค. อย่างไรก็ตามความคาดหวังของสังคมกับกลุ่มคนหน้าใหม่ทางการเมืองนั้นไม่ใช่แค่เป็นคนรุ่นใหม่ อายุน้อย เท่านั้น แต่ความคิดต้องใหม่และใช้การได้จริง อยู่บนโลกความเป็นจริง หมายความว่าต้องแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองที่เรื้อรังมาตลอด 10 ปีด้วย กล้าสรุปบทเรียนและเข้าใจคนรุ่นเก่าด้วยเช่นกันเพราะการเมืองเป็นเรื่องของคนทุกกลุ่มทุกรุ่น ทุกภาคส่วนไม่เช่นนั้นก็จะเป็นแค่สีสันชั่วคราวทางการเมืองเท่านั้น.
ที่มาข่าว: https://www.dailynews.co.th/politics/637066