งานวิจัยแอมเนสตี้เผยเวียดนามปราบปรามผู้เห็นต่าง คุมขังนักโทษทางความคิดเกือบ 100 คน
แอมเนสตี้ออกงานวิจัยล่าสุด ระบุเวียดนามคุมขังนักโทษทางความคิดอย่างน้อย 97 คน หลายคนถูกห้ามไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอก ถูกควบคุมตัวในสภาพที่เลวร้าย และมักถูกทรมานหรือปฏิบัติอย่างโหดร้าย เรียกร้องให้ปล่อยตัวทุกคนที่ถูกคุมขังเพียงเพราะการแสดงความเห็นอย่างสงบโดยทันที
งานวิจัยของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลพบว่า นักโทษทางความคิดในเวียดนามเผชิญสภาพชีวิตที่เลวร้ายในเรือนจำ โดยมักถูกขังเดี่ยว และไม่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อทนายความและครอบครัว เรือนจำเวียดนามมักเกิดเหตุทรมาน โดยแอมเนสตี้ สามารถเก็บข้อมูลนักโทษที่ถูกทุบตีด้วยไม้ สายยาง ถูกต่อยและถูกเตะ ถูกช็อตด้วยไฟฟ้า และถูกบังคับให้อยู่ในท่วงท่าที่อึดอัด
งานวิจัยดังกล่าวเผยแพร่ก่อนที่ในวันนี้ นักกิจกรรมหกคนจะเข้ารับการพิจารณาคดีที่กรุงฮานอยซิตี้ โดยห้าคนเป็นสมาชิกกลุ่มภราดรภาพเพื่อประชาธิปไตยซึ่งไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับรัฐ ส่วนอีกหนึ่งคนเป็นนักกิจกรรมชื่อเหงียนบักตรูเยน ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา “ล้มล้างรัฐบาล” เนื่องจากการจัดกิจกรรมทางการเมืองอย่างสงบ เพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานระหว่างประเทศรณรงค์ประเด็นสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายกับเกษตรกรและคนงาน หากศาลตัดสินว่ามีความผิด พวกเขาอาจได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือโทษประหารชีวิต
ด้านเจมส์ โกเมซ (James Gomez) ผู้อำนวยการแผนกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่า เวียดนามเป็นประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นิยมคุมขังนักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวอย่างสงบ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่าอับอายและไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง
“การปราบปรามผู้เห็นต่างในเวียดนามต้องยุติลงทันที ทางการควรเริ่มต้นด้วยการยกเลิกการดำเนินคดีต่อนักกิจกรรมทั้งหกคน ซึ่งจะเข้ารับการพิจารณาคดีในวันนี้ และให้ปล่อยตัวพวกเขาพร้อมทั้งนักโทษทางความคิดอีก 97 คนอย่างไม่มีเงื่อนไข และให้ยกเลิกกฎหมายใดๆ ที่เอาผิดผู้เห็นต่างอย่างสงบ”
“หากรัฐบาลเวียดนามไม่เปลี่ยนแนวทางและยุติการปฏิบัติมิชอบด้วยกฎหมายที่มุ่งคุมขังและคุกคามฝ่ายค้านอย่างสงบ รายชื่อนักโทษทางความคิดก็จะเพิ่มขึ้นอีกในเวลาไม่นาน เวียดนามต้องปล่อยตัวทุกคนที่ถูกคุมขังเพียงเพราะการแสดงความเห็นอย่างสงบโดยทันที และต้องปฏิบัติตามพันธกรณีที่จะต้องเคารพสิทธิมนุษยชนของทุกคนอย่างจริงจัง” เจมส์กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับรายชื่อนักโทษทางความคิด 97 คนประกอบด้วย นักกฎหมาย บล็อกเกอร์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และผู้รณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ทั้งหมดล้วนแต่เคลื่อนไหวอย่างสงบทั้งสิ้น หลายคนได้รับโทษจำคุกเป็นเวลานาน หลังการไต่สวนที่ไม่เป็นธรรมโดยศาลเวียดนาม