‘อภิสิทธิ์’ประกาศกร้าว!ใครแตกแถวหนุน‘บิ๊กตู่’ไล่ไปอยู่พรรคอื่น
“อภิสิทธิ์”แจงมีแค่“สุเทพ-ธานี”ออกจาก ปชป. ชี้สมาชิกต้องชูหัวหน้าพรรคนั่งนายกฯ ประกาศชัดใครหนุน“บิ๊กตู่”ไล่ไปอยู่พรรคอื่น
1 เม.ย.61 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงบรรยากาศการยืนยันสมาชิกพรรคฯ ว่า นอกจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย และนายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฏร์ธานี ที่แสดงเจตนาว่าจะเป็นผู้ไปจดแจ้งพรรคการเมืองใหม่ ก็ยังไม่มีอดีต ส.ส.คนอื่น มาบอกว่าจะไม่อยู่ร่วมงานกับพรรค ส่วนบางคนที่ไปบวชจึงพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค ต้องรอสมัครสมาชิกพรรคใหม่
อย่างไรก็ตามสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า ยังสนับสนุนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ไม่ว่าหัวหน้าพรรคจะเป็นใครก็ตาม ส่วนใครที่จะออกนอกแถวไปสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอให้ไปทางเลือกอื่น ไม่ต้องมาที่นี่ เพราะมีพรรคการเมืองอีกมากที่รองรับ ถ้าถามถึงความเป็นไปได้ที่พรรคประชาธิปัตย์จะสนับสนุนทหารเป็นรัฐบาลนั้น ต้องไปดูว่าทหารเข้ามาได้อย่างไร และมีกี่เสียง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การจัดตั้งรัฐบาลต้องเคารพเสียงของประชาชน โดยพรรคประชาธิปัตย์ต้องการจะเป็นหลักของประชาชน โดยขอความสนับสนุนกับประชาชนให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นหลักเดินหน้า ส่วนข้อสังเกตที่ว่าหากเกิดวิกฤติแล้วจำเป็นจะต้องให้ทหารอยู่ในอำนาจต่อนั้น ผมมองว่าการจะเดินหน้าเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งจำเป็นจะต้องรักษาคำพูดเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น หากทำอะไรที่ทำให้ประชาชนคิดว่ามีการบิดพลิ้ว หรือไม่เป็นไปตามที่ได้บอกไว้ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้ง ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกันให้บ้านเมืองเดินไปได้
“ผมยืนยันด้วยว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินตามวิถีทางประชาธิปไตย หากสนับสนุนพรรคก็ต้องสนับสนุนหัวหน้าพรรคให้เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนหากใครจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ต้องมาที่นี่ เพราะมีทางเลือกอื่นให้เลือกอยู่แล้ว และแต่ส่วนตัวผมไม่สามารถตอบแทนพรรคได้ว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ หรือทหารมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป แล้วจะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ แต่ผมขอให้ส.ว.ที่มาจากการสรรหาเคารพเสียงของประชาชนที่ได้เลือกมาด้วย” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่ามีการยืนยันว่าจากสมาชิกของพรรคที่มีอยู่กว่า 2.5 ล้านคน จะเหลือเพียงแค่ 1 แสนคน จะเป็นไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราพยายามให้ได้มากที่สุด ซึ่งทุกคนทราบดีว่าการออกกฎหมายเช่นนี้ ระยะเวลาการให้ความชัดเจนในบางเรื่อง ทุกคนทราบดีว่ามีอุปสรรคอะไร หากวันหนึ่งบ้านเมืองถึงวิกฤติและจำเป็นต้องให้ทหารอยู่ในอำนาจต่อจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องบอกว่าการจะเดินหน้าที่จะไม่ให้เกิดความขัดแย้ง คือการที่ทุกคนต้องรักษาคำพูดเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น ถ้ามีการทำอะไรที่ประชาชนมองว่ามีการบิดพลิ้ว หรือไม่เป็นไปตามสิ่งที่บอกกับประชาชน ก็จะเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้ง จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปได้
ที่มาข่าว:http://www.naewna.com/politic/330466