"มาร์ค"จ่อแถลงแนวทางปชป.1เม.ย.ยันพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง

“มาร์ค”เตรียมแถลงแนวทางปชป. 1 เม.ย. ยันพรรคพร้อมลุยสนามเลือกตั้ง แต่มีปัญหาติดล็อก“คสช.”

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเชิญพรรคการเมืองต่างๆ มาหารือร่วมกันในเดือนมิ.ย.นี้ โดยจะให้แต่ละพรรคนำเสนอนโยบายด้วย  ว่า  ตนสงสัยว่าตกลงพล.อ.ประยุทธ์จะให้บอกหรือไม่ให้บอก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องมาขอ เพราะตนให้นโยบายไปหลายเรื่องแล้ว อาทิ การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นซึ่งในยุคของตน ใครมีปัญหานี้ ขอให้ออกจากตำแหน่งไปก่อน เรื่องบัตรคนจน ถ้าเป็นตนจะให้เป็นเงินสดเพื่อมีเงินหมุนเวียนในชุมชน เรื่องอย่างนี้เราให้มาตลอด ไม่ต้องขอ แล้วรัฐบาลทำหรือไม่

เมื่อถามว่ายังมั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนก.พ.2562 หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ประมาณนั้น แต่ตนไม่ได้ยึดติดหรือดูฤกษ์ว่าจะต้องเดือนใด พรรคประชาธิปัตย์พร้อมลงสนามเลือกตั้งอยู่แล้ว แต่ยังมีปัญหาคือการไม่ปลดล็อกพรรคการเมืองให้ทำงานได้ หากปลดเมื่อไหร่ ทุกพรรคพร้อมอยู่แล้ว ถ้าพรรคการเมืองจะประชุมตามกฎหมาย ตนมองไม่เห็นเลยว่าจะกระทบความมั่นคงตรงไหน แต่ถ้าพรรคใดที่ต้องการสร้างผลกระทบกับความมั่นคง เขาก็ทำอยู่แล้ว ไม่รอปลดล็อก และคงไม่มีใครเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคโดยมีวาระการประชุมเพื่อสร้างความปั่นป่วนในบ้านเมือง

ต่อข้อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะทำอย่างไรบ้าง หลังจากคสช.ปลดล็อกแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนจะบอกในสัปดาห์หน้า เพราะวันที่ 1 เม.ย.นี้ จะเริ่มกระบวนการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งตนเคยสอบถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคสช.แล้วว่าการที่คสช.บอกว่าที่ให้ยืนยันความเป็นสมาชิกพรรค เพราะสมาชิกต้องรู้ว่าเมื่อมีกฎหมายใหม่ พรรคต่างๆจะมีอุดมการณ์หรือแนวทางอย่างไร แต่ในเมื่อไม่ให้เราประชุม ก็มีมติออกมาไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ ตนเคยถามเขาแล้ว แต่เขาไม่ตอบ  อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 เม.ย. ตนจะแถลงถึงแนวทางที่ตนตั้งใจไว้ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจของสมาชิกว่าเขายังยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคต่อหรือไม่

เมื่อถามว่าถ้าเปรียบกับทีมฟุตบอล พรรคประชาธิปัตย์กับคสช.เป็นเหมือนกับทีมใด  นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คสช.เปรียบยาก เพราะคสช.แสดงตัวเป็นกรรมการอยู่ แต่ไม่ปิดทางที่จะลงมาเล่นเอง มันมีทีมไหนในโลกที่จะเอามาเปรียบเทียบกับแบบนี้ได้.

นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ยังไม่มีส.ส.ของพรรคคนใดที่บอกว่าจะไม่ทำงานกับพรรคต่อไป คงไม่มีอะไรผิดปกติ ช่วงการเลือกตั้งทุกครั้งมีคนออกไปอยู่บ้างไม่มาก ขณะเดียวกันมีคนหน้าใหม่เข้ามา ซึ่งเราไม่ได้มุ่งเอาอดีตส.ส.จากพรรคอื่น แต่พยายามดึงคนรุ่นใหม่และคนที่มีพื้นฐานที่หลากหลายให้เข้ามามากขึ้น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการกปปส. แยกตัวออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และอาจตั้งพรรคการเมืองใหม่ ว่า ถ้ามีการจัดตั้งพรรคขึ้นมา ทุกพรรคก็ต้องแข่งขันกัน ตนได้ยินข่าวว่านายธานี เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันอยู่ว่าเดินหน้าต่อ ถือว่าเป็นอีกพรรคการเมืองที่ต้องมาแข่งขันกัน  เมื่อถามว่าถ้านายธานีตั้งพรรคใหม่จริง จะเป็นพันธมิตรกับพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากมีสิ่งที่เป็นจุดยืนร่วมกัน  ส่วนการที่นายธานีระบุว่าพรรคของเขาขอเป็นที่ 2 นั้น ตนไม่ทราบ กลยุทธ์ของแต่ละพรรคเป็นเรื่องที่เขาวางไป แต่พรรคประชาธิปัตย์มุ่งหน้าทำให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด เพราะระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ทำให้ทุกคะแนนต้องถูกนำมาคำนวณจำนวนส.ส. เราเดินหน้าว่าทำอย่างไรที่เราจะมีข้อเสนอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเห็นว่าเราสามารถเป็นที่พึ่งหรือนำพาอนาคตของประเทศได้.

ที่มาข่าว: https://www.dailynews.co.th/politics/633875