'บิ๊กน้อย'โร่แจ้งความ! หลังถูกกล่าวหาเอี่ยวจัดซื้อกล้องวงจรปิดภาคใต้
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายวานว่า จากกรณีที่ นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชัน ได้ยื่นหนังสือ ต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบโครงการติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ทั้ง 12 เขตพื้นที่การศึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ระบุว่า มีกลุ่มทหารที่ได้รับผลประโยชน์ ข่มขู่แทรกแซง ให้กรรมการจัดซื้อจัดจ้างและกรรมการตรวจรับงาน ซึ่งเป็นข้าราชการครู ให้ตรวจรับงานที่ไม่เป็นไปตามสัญญา โดยอ้างว่า เป็นข้อสั่งการของ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ นั้น
พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนหลายครั้งแล้ว ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งตนในฐานะที่เป็นหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหา จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้รวบรวมเอกสารหลักฐานรายงาน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ได้รับทราบแล้ว ซึ่ง รมว.ศธ.ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2560 กระทั้งเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2560 คณะกรรมการสืบสวนฯก็ได้สรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริงและรายงานเสนอต่อ รมว.ศธ.ว่ามีข้าราชการจำนวนหนึ่งเข้าข่ายกระทำความผิด และเห็นควรส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ดำเนินการ ขณะเดียวกันตนก็ได้ทำหนังสือไปถึงเลขาธิการ ป.ป.ช.เมื่อเดือนมกราคม 2561 ที่ผ่านมา เพื่อขอความร่วมมือให้เร่งรัดในการสอบสวนเอาผิดกับผู้กระทำความผิดดังกล่าวด้วย ขณะนี้ ป.ป.ช.ก็ยังไม่ได้เชิญตนไปให้ปากคำ แต่สิ่งที่เป็นข้อมูลที่ส่งไปให้ ป.ป.ช.นั้นครบถ้วน คิดว่า ป.ป.ช.กำลังดำเนินการอยู่
“ที่มีการระบุชื่อผม ว่าเป็นผู้สั่งการอยู่เบื้องหลังนั้น ผมได้ไปแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาท ไว้ที่สถานีตำรวจทุ่งสองห้อง แล้ว เพื่อให้ดำเนินคดีหมิ่นประมาทกับผู้เผยแพร่ข้อความดังกล่าวลงในโซเชี่ยลแล้วเพราะ ถือว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่า ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนเรื่องการย้ายผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯออกนอกพื้นที่นั้น เป็นอำนาจของเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด เพราะการสอบสวนวินัยร้ายแรงจะต้องออกจากพื้นที่ไว้ก่อน เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นประโยชน์ของการสอบสวนด้วย” พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม ตนเคยเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ปัญหาทุจริตของศธ.คงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำการทุจริตเอง