ราชกิจจาฯเผยแพร่ประกาศจ่าย ค่าพาหนะ ค่าป่วยการ และค่าที่พักแก่พยาน ที่มาศาลตามหมายเรียก
เว็บไซต์ราชกิจจาฯเผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม 2561 ว่าด้วยการจ่ายค่าพาหนะ ค่าป่วยการ และค่าที่พักแก่พยานซึ่งมาศาลตามหมายเรียกในคดีอาญา พ.ศ.2561 โดยที่เป็นการสมควรให้มีระเบียบว่าด้วยการจ่ายค่าพาหนะ ค่าป่วยการ และค่าเช่าที่พักแก่พยานซึ่งมาศาลตามหมายเรียกในคดีอาญา
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม 2561 ว่าด้วยการจ่ายค่าพาหนะ ค่าป่วยการ และค่าที่พักแก่พยานซึ่งมาศาลตามหมายเรียกในคดีอาญา พ.ศ.2561 และคดีทุจริต โดยที่เป็นการสมควรให้มีระเบียบว่าด้วยการจ่ายค่าพาหนะ ค่าป่วยการ และค่าเช่าที่พักแก่พยานซึ่งมาศาลตามหมายเรียกในคดีอาญา อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 256 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 28) พ.ศ. 2551 คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) โดยความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ว่าด้วยการจ่าย
ค่าพาหนะ ค่าป่วยการ และค่าเช่าที่พักแก่พยานซึ่งมาศาลตามหมายเรียกในคดีอาญา พ.ศ. 2561”
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้ศาลสั่งจ่ายค่าป่วยการแก่พยานซึ่งมาศาลตามหมายเรียกตามคําขอของคู่ความดังนี้
(1) พยานโจทก์ในคดีซึ่งพนักงานอัยการเป็นโจทก์หรือคดีที่มิใช่ความผิดต่อส่วนตัว
ซึ่งผู้เสียหายเป็นโจทก์ แต่ถ้าพยานนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและการมาเป็นพยานเป็นส่วนหนึ่งของ
การปฏิบัติหน้าที่หรือสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ ให้อยู่ในดุลพินิจของศาลว่าจะสั่งจ่ายค่าป่วยการให้
หรือไม่ก็ได้
(2) พยานโจทก์ในคดีความผิดต่อส่วนตัวที่ผู้เสียหายเป็นโจทก์หรือพยานจําเลย ให้อยู่ใน
ดุลพินิจของศาลว่าจะสั่งจ่ายค่าป่วยการให้หรือไม่ก็ได้
ข้อ 4 ให้ศาลกําหนดค่าป่วยการตามสมควรให้แก่พยานตามข้อ 3 และพยานที่ศาล
เรียกมาเอง โดยคํานึงถึงสภาพแห่งคดี ระยะเวลาที่เบิกความ ตลอดจนรายได้และฐานะโดยทั่วไปของพยาน
แต่ไม่ให้ต่ํากว่าวันละ 300 บาท และไม่เกินวันละ 500 บาท
ถ้าศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงที่พยานเบิกความมีความยุ่งยากซับซ้อน ศาลอาจกําหนดค่าป่วยการ
สูงกว่าอัตราขั้นสูงที่กําหนดไว้ในวรรคหนึ่งก็ได้ แต่ไม่เกินวันละ 1,000 บาท
ข้อ 5 ให้ศาลมีอํานาจสั่งจ่ายค่าพาหนะเดินทางและค่าเช่าที่พักแก่พยานตามข้อ 3
และพยานที่ศาลเรียกมาเอง ดังนี้
(1) ผู้ที่เป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงาน หรือลูกจ้างของราชการ ให้สั่งจ่ายได้
ตามหลักเกณฑ์และอัตราค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการตามกฎหมายหรือระเบียบว่าด้วยการนั้น
(2) บุคคลนอกจาก (1) ให้สั่งจ่ายได้โดยเทียบเท่ากับตําแหน่งข้าราชการศาลยุติธรรม
ประเภทวิชาการระดับชํานาญการพิเศษ
ข้อ 6 การจ่ายเงินตามข้อ 4 และข้อ 5 ให้ศาลสั่งจ่ายเมื่อพยานได้ปฏิบัติหน้าที่เสร็จสิ้น
และให้เจ้าหน้าที่ศาลดําเนินการเบิกจ่ายเงินดังกล่าวให้แก่พยานโดยเร็ว
ในกรณีที่พยานมาตามนัดของศาลแต่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ได้เป็นความผิดของพยาน
ให้ศาลมีอํานาจกําหนดค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง และค่าเช่าที่พักแก่พยานได้ตามที่เห็นสมควร
แต่ไม่เกินอัตราตามข้อ 4 หรือข้อ 5 แล้วแต่กรณี
ข้อ 7 การเบิกจ่ายเงินตามระเบียบนี้ ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณ ส่วนวิธีการเบิกจ่าย
หลักฐานและเอกสารการเบิกจ่าย ให้ปฏิบัติตามระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการนั้น
และระเบียบคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมเกี่ยวกับการเงิน
ข้อ 8 พยานที่ได้รับค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง ค่าเช่าที่พัก หรือค่าตอบแทน
ในลักษณะเดียวกันตามกฎหมาย ข้อบังคับหรือระเบียบอื่นแล้ว ไม่มีสิทธิได้รับเงินตามระเบียบนี้อีก
ข้อ 9 ให้เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรมรักษาการตามระเบียบนี้
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/A/013/18.PDF