สปสช.เร่งลงทะเบียนสิทธิบัตรทอง ขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพ "พระสงฆ์"
สปสช. ตั้ง “คณะทำงานขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ฯ” ประสานทุกเขตรุกสำรวจลงทะเบียนสิทธิบัตรทองพระสงฆ์ เร่งขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ ต่อยอดงานส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เน้นการเข้าถึงสิทธิประโยชน์การรักษาและบริการสาธารณสุข
นพ.ประจักษ์วิช เล็บนาค รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การดูแลสุขภาพพระสงฆ์นับเป็นภารกิจภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายประชากรที่ สปสช.ดูแลให้เข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขอย่างครอบคลุมและทั่วถึง ก่อนหน้านี้แต่ละพื้นที่ได้มีการจัดทำโครงการเพื่อดูแลสุขภาพพระสงฆ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้งบส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ทั้งการตรวจสุขภาพและการคัดกรองโรคพระภิกษุสงฆ์ รวมทั้งการให้ความรู้ด้านสุขภาพ อาทิ เขต 10 จับมือกับ รพ.เอกชนในพื้นที่ดำเนินโครงการตรวจสุขภาพพระสงฆ์ในเขตเมือง, เขต 4 นำร่องการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ที่วัดหลังเขาวนาราม อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โครงการการถวายความรู้พระสงฆ์ในการดูแลสุขภาพ และโครงการปิ่นโตสุขภาพ เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมตระหนัก และเขต 2 ดำเนินโครงการร่วมกับ รพ.พุทธชินราช เพื่อดูแลสุขภาพพระสงฆ์ในเขตเมือง และในปี 2561 นี้ยังมีแผนดำเนินงานร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อดูแลปัญหาเบาหวานและความดันในพระสงฆ์ เป็นต้น
ทั้งนี้ หลังจากธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติได้ประกาศใช้เมื่อปลายปี 2560 จะส่งผลให้โครงการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติดำเนินไปอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเบื้องต้น สปสช.เขตในแต่ละพื้นที่ได้เร่งสำรวจเลข 13 หลัก พร้อมลงทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้กับพระภิกษุสงฆ์ที่จำวัดในพื้นที่ ดำเนินการร่วมกับมหาเถรสมาคม สำนักพระพุทธศาสนา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ก่อนที่จะขับเคลื่อนโดยใช้ “กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น” เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่ง เน้นการมีส่วนร่วมของ อปท.และชุมชน ดำเนินกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับพระสงฆ์
“การขับเคลื่อนสุขภาพพระสงฆ์ ก่อนหน้านี้แม้ว่า สปสช.จะขับเคลื่อนผ่านงบส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคแล้ว แต่ยังเป็นการดำเนินงานในบางพื้นที่เท่านั้น เฉพาะพื้นที่ที่มีผู้สนับสนุนและดำเนินการได้ แตกต่างจากการใช้กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นกลไกขับเคลื่อน ก่อให้เกิดความร่วมมือจากท้องถิ่นและชุมชน ซึ่งจะครอบคลุมการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ในพื้นที่มากกว่า” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวและว่า ในการร่วมขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ฯ นี้ สปสช.ยังจะมีการแต่งตั้ง “คณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ” ซึ่งมีตนเป็นประธานเพื่อให้เกิดผลการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นไปตามเจตนารมณ์ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์
นพ.ประจักษ์วิช กล่าวว่า นอกจากนี้ สปสช.ยังจะมีการทบทวนสิทธิประโยชน์การรักษาและบริการสุขภาพของพระสงฆ์ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.) ซึ่งอยู่ระหว่างการทำการวิจัย จัดเก็บการเข้ารับบริการของพระสงฆ์ ว่าสิทธิประโยชน์ที่มีอยู่ ตอบโจทย์การดูและพระภิกษุสงฆ์หรือไม่ ทั้งในแง่การรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค รวมถึงการฟื้นฟูสมรรถาพการแพทย์ ซึ่งจะมีการนำเสนอเป็นนโยบายต่อไป
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก http://donationthailand.com