ถกตั้ง”องค์กรพิเศษ”คุมรถไฟไทย-จีน “ไพรินทร์”เผยตั้งใหม่ ต้องอิสระจาก ร.ฟ.ท.
“ไพรินทร์”ถกแนวทางจัดตั้ง”องค์กรพิเศษ” ดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนนัดแรก ยึดมติครม. คล่องตัว มีอิสระจากรถไฟ สั่งพิจารณารายละเอียด 2 เดือนหารือใหม่ เผยแนวตั้งบริษัท จำกัด มีรถไฟถือหุ้นแต่ในสัดส่วนไม่มาก และดึงรัฐวิสาหกิจชั้นนำ ที่มีกำไรร่วมถือหุ้น
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่ากากระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการจัดตั้งองค์กรพิเศษเพื่อกำกับการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง ว่า จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้จัดตั้งองค์กรพิเศษเพื่อรองรับการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงในความร่วมมือระหว่างไทย-จีน โดยให้เป็นองค์กรที่มีความคล่องตัว มีอิสระ จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ซึ่งได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขาคณะอนุฯ คือ สำนักงานบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านการพัฒนารถไฟระหว่างไทย-จีน และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) พิจารณาแนวทางจัดตั้งที่เหมาะสมและสอดคล้องกับเจตนาของ ครม. และให้นำเสนอคณะอนุฯ ในอีก 2 เดือน
โดย รูปแบบของการจัดตั้งองค์กร ในส่วนของภาครัฐมี 4 รูปแบบ คือ 1 หน่วยงานราชการ 2. หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ (ทั่วไป, จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์) 3. องค์กรมหาชน 4. SDU หรือหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ( Service Delivery Unit) ส่วนเอกชน มี 4 รูปแบบ โดยองค์กรที่ไม่หวังกำไรคือ สมาคม และมูลนิธิ ส่วนที่มุ่งหวังกำไร คือ ห้างหุ้นส่วน จำกัด บริษัทจำกัด ,บริษัท จำกัด(มหาชน) ,บริษัท มหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
“ในโลกนี้มีรูปแบบการจัดตั้งองค์กรเท่านี้ ดังนั้นต้องมาดูว่า ความเป็นอิสระ สามารถลดภาระงบประมาณของรัฐจะเป็นอย่างไร แนวทางควรจะสามารถระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้หรือไม่ ตอนนี้เท่าที่ดูตามแนวทางของครม. กรณีเป็นหน่วยงานของรัฐ เหลือรูปแบบรัฐวิสาหกิจที่มีความเป็นไปได้ ส่วนจัดตั้งเป็นหน่วยงานราชการ,องค์กรมหาชน,SDU อาจต้องตัดออก ส่วนกรณีเป็นเอกชน อาจจะเป็นบริษัท จดทะเบียน ซึ่งให้เวลาศึกษา 2 เดือน ขณะนี้รถไฟไทย-จีน เพิ่งเริ่มก่อสร้าง และจะใช้เวลาก่อสร้างอีกอย่างน้อย 4-5 ปี ยังมีเวลาอีก”นายไพรินทร์กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ครม.มีมติเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2560 อนุมัติให้ร.ฟ.ท.ดำเนินโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพ-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วง กรุงเทพ- นครราชสีมา) และให้กระทรวงคมนาคม ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาแนวทางการจัดตั้งองค์กรพิเศษที่เป็นอิสระจากการกำกับการของรฟท.เพื่อดำเนินโครงการให้มีประสิทธิภาพ โครงสร้างองค์กรมีความคล่องตัวในการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูง
โดยเบื้องต้น ให้ ร.ฟ.ท.ดำเนินการก่อสร้างโครงการให้แล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังเป็นผู้ขจัดหาเงินกู้ ส่วนหลักการจัดตั้งองค์กรพิเศษนั้น ในส่วนที่รับผิดชอบงานด้านโครงสร้างพื้นฐานนั้น ควรเป็นรัฐวิสาหกิจที่ รัฐถือหุ้นมากกว่าเอกชน คือ 51% ต่อ 49 % ซึ่งในส่วนของ 51% ที่เป็นของรัฐนั้น ไม่จำเป็นต้องให้ร.ฟ.ท.ถือทั้งหมด สามารถเปิดให้รัฐวิสาหกิจอื่นที่มีประสิทธิภาพมีผลประกอบการที่ดี เช่น ปตท. การเคหะ ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ เป็นต้น เข้ามาร่วมได้ ส่วนการเดินรถ สามารถเปิดให้เอกชนเข้ามาดำเนินการ และจ่ายค่าใช้รางกับองค์กรพิเศษ ซึ่งจะมีการพิจารณารูปแบบที่เหมาะสมที่สุดต่อไป
ที่มาข่าว:https://mgronline.com/business/detail/9610000020668