ชาวบ้านกระบี่-เทพา 63 คน อดข้าวประท้วง จี้รัฐเลิกโรงไฟฟ้าถ่านหิน
เครือข่ายคนไม่เอาถ่านหิน ประท้วงอดอาหาร ล่วงเข้าวันที่ 2 ยันรอ จนกว่ารัฐบาลยกเลิกโรงไฟฟ้า ขีดเส้นหลังประชุมครม. หากยังไม่ชัดเจนจะมีการยกระดับเพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่13 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ผู้ชุมนุมเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินและเครือข่ายคนสงขลาไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน (กระบี่ – เทพา) กว่า 150 คน ซึ่งปักหลักอยู่หน้าองค์กรสหประชาชาติ (UN) ภายหลังประกาศยืนยันให้รัฐบาลยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าในทั้งสองพื้นที่ โดยภายหลังการประกาศเจตนารมณ์เมื่อวานนี้(12ก.พ.61) ผู้ชุมนุมได้ร่วมอดอาหารประท้วง โดยดื่มเพียงน้ำเปล่าเท่านั้น ล่าสุดมีผู้ร่วมอดอาหารแล้ว ทั้งหมด 63 คน
ตัวแทนเครือข่ายระบุว่า เส้นตายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ หากยังไม่ชัดเจนจะมีการยกระดับเพิ่มขึ้น
ด้านนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ กล่าวถึงการอดข้าวประท้วง เป็นทางเลือกสันติวิธีที่เหลืออยู่ เพื่อยกเลิกโรงไฟฟ้าถ่านหิน การที่คนเราจะตัดสินใจอดข้าวประท้วงคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนี่คือการอารยะขัดขืนขั้นสูงสุดที่มนุษย์พึงกระทำได้ เพื่อประกาศเอาทั้งกายและใจเข้าแลก เพื่อปกป้องบ้านเกิด ปกป้องแผ่นดิน ปกป้องลูกหลาน ให้พ้นจากภัยจากนโยบายการดันทุรังก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และเทพาโดยที่ไม่ฟังเสียงประชาชน
"แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจะพูดว่าจะเลื่อนการพิจารณาสร้างหรือไม่สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินไปอีก 3 ปี แต่ก็ไม่ปรากฏลายลักษณ์อักษรใดๆ อีกทั้งในระหว่าง 3 ปีนี้ ยังอนุญาตให้มีการเตรียมการอื่นใดไปพลางได้ เช่น ให้มีการศึกษา EHIA ให้แล้วเสร็จได้ ทำให้การประกาศเลื่อน 3 ปี จึงเป็นการเลื่อนสอดไส้ที่ขาดความจริงใจ"
สำหรับคนกระบี่และเทพา นพ.สุภัทร ระบุว่า มีการศึกษาข้อมูลจนมีความชัดเจนแล้วว่า ทั้งกระบี่และเทพาอุดมสมบูรณ์เกินกว่าที่จะมาแลกด้วยโรงไฟฟ้าถ่านหิน กระบี่เมืองท่องเที่ยวโลก ผู้คนทั่วโลกมากระบี่เพราะทะเลสวยฟ้าใสอากาศดี สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 500,000 ล้านบาท สร้างงานสร้างเงินแก่คนนับแสน ยั่งยืนยาวนาน แต่รัฐกลับจะมาสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน แค่คิดก็ผิดแล้ว
"คนกระบี่และเทพาตั้งใจที่จะอดข้าว ทานได้แต่เพียงน้ำและของเหลวเพื่อประทังชีวิต ใครไม่ไหวล้มลงก็หามส่งโรงพยาบาล คนใหม่มาอดข้าวแทน ต่อเนื่องยาวนานจนกว่าจะได้รับชัยชนะ นี่เป็นการแสดงออกโดยสันติวิธีอย่างที่สุด เป็นแรงกดดันที่ส่งแรงทั้งต่อรัฐบาลรวมถึงภาคประชาชนเองด้วยเป็นปฏิบัติการประดุจการทุบหม้อข้าวเข้าตีเมืองจันท์ ที่ต้องร่วมมือร่วมใจและต้องการสนับสนุนจากพลังมวลชน จึงจะสามารถทำให้รัฐบาลเผด็จการจำต้องยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่และเทพา อันเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนของการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ได้
อารยะขัดขืนด้วยการอดข้าวประท้วงในครั้งนี้ เป็นการประกาศอิสรภาพจากความกลัวของภาคประชาชน เพื่อหยุดโรงไฟฟ้าถ่านหิน และหยุดการละเมิดสิทธิชุมชนอันอุดมสมบูรณ์ของคนกระบี่และเทพา และเป็นการเคลื่อนไหวที่รอการสนับสนุนจากคนไทยทั้งประเทศที่จะร่วมกดดันรัฐบาลและ คสช."