เจาะแฟ้มลับคดีทุจริตสนง.ลูกเสือแห่งชาติ! แจ้งความจนท.แอบอ้างสั่งของงานชุมนุมลูกเสือโลก
"...สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตเจ้าหน้าที่ในสำนักงานรายหนึ่ง ที่แอบอ้างคำสั่งสำนักงานสั่งซื้อสินค้าจากองค์การค้าของ สกสค. จำนวน 5 รายการ สำหรับคณะผู้แทนลูกเสือไทย ที่เดินทางไปเข้าร่วมชุมนุมลูกเสือโลก ครั้งที่ 23 ณ ประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย กระเป๋าลาก กระบอกน้ำ หัวเข็มขัด สายเข็มขัด และผ้าผูกคอ รวมวงเงินกว่า 592,534 บาท..."
ดูเหมือนว่าปัญหาการใช้จ่ายเงินของสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กรณีการปรากฏชื่อลูกหนี้ระยะยาวของสำนักงานฯ เป็นอดีตผู้บริหารและข้าราชการระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ จำนวนกว่า 17 สัญญา วงเงิน 3,286,952.00 บาท ซึ่งเป็นลูกหนี้เงินยืมระยะยาวค้างนาน ตั้งแต่ปี 2538 – 2552 ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.orgติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงมานำเสนอไปก่อนหน้านี้ จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ปัญหาเดียวที่เกิดขึ้นในการบริหารงานภายในสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ เท่านั้น (อ่านประกอบ : เปิดหมดบัญชีหนี้เงินยืม17สัญญาลูกเสือแห่งชาติ! อดีตบิ๊กประสานเสียงส่งหลักฐานครบจนท.ทำหาย?, เจาะข้อมูลหนี้ลูกเสือแห่งชาติ17สัญญา3.2ล.!ชื่ออดีตผอ.-ขรก.โผล่11ราย คนเดียวยืมเป็นล้าน)
หากแต่ยังมีปัญหาสำคัญหลายเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับการทุจริตประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงาน
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตเจ้าหน้าที่ในสำนักงานรายหนึ่ง ที่แอบอ้างคำสั่งสำนักงานสั่งซื้อสินค้าจากองค์การค้าของ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จำนวน 5 รายการ สำหรับคณะผู้แทนลูกเสือไทย ที่เดินทางไปเข้าร่วมชุมนุมลูกเสือโลก ครั้งที่ 23 ณ ประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย กระเป๋าลาก กระบอกน้ำ หัวเข็มขัด สายเข็มขัด และผ้าผูกคอ รวมวงเงินกว่า 592,534 บาท
อย่างไรก็ดี ในการดำเนินงานโครงการนี้ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้อนุมัติให้มีการสั่งซื้อสินค้าเพียง 2 รายการ คือ ผ้าผูกคอ จำนวน 359 ผืน และกระติกน้ำ จำนวน 359 ใบ รวมวงเงิน 62,466 บาท เท่านั้น และชำระเงินไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนสินค้าทั้ง 5 รายการ ไม่ได้มอบหมายให้ใครไปดำเนินการสั่งซื้อแต่อย่างใด จึงทำให้ องค์การค้าของ สกสค. เข้าใจว่าสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ค้างชำระหนี้อยู่ รวมวงเงินกว่า 592,534 บาท และมีหนังสือทวงถามมา ทำให้ได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง
จากการตรวจสอบพบว่า หลังจากที่เกิดปัญหาเรื่องนี้ขึ้น เจ้าหน้าที่รายได้นี้ ได้ทำหนังสือขอลาออกไปทันที ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) ได้เข้ามาสอบสวนเรื่องนี้เป็นทางการแล้ว และมีการทำหนังสือแจ้งถึงผู้บริหารระดับสูงของ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง และส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมไปแล้ว ตั้งแต่ในช่วงต้นปี 2560 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่ปรากฎข้อมูลยืนยันเป็นทางการว่า คดีนี้ผ่านขั้นตอนการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วยัง และพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่สำนักงานลูกเสือแห่งชาติรายนี้ ดำเนินการเพียงคนเดียว หรือมีใครอยู่เบื้องหลังและเป็นผู้สั่งการให้ดำเนินการหรือไม่?
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะนำมาเสนอให้รับทราบในตอนต่อไป