ขมวดปม 1 เดือน ‘บ้านมั่นคง’ ถูกปิด 40 คูหา ไร้คำชี้แจง พอช. แก้แบบล่าช้า-ชาวบ้านทุกข์ร้อน
ขมวดปมปัญหา ‘บ้านมั่นคง’ พื้นที่ กสบ.หมู่ 5 ยังไร้ทางออก เมื่อ พอช.แก้ไขแบบก่อสร้างล่าช้า สำนักงานเขตสายไหม จำเป็นต่อไป สั่งห้ามเข้าใช้อาคาร 40 คูหา ขณะที่ยังไร้คำชี้แจงจาก 'สมชาติ ภาระสุวรรณ' ผอ.พอช.
ยังไม่มีคำชี้แจงใด ๆ ออกมาจาก “นายสมชาติ ภาระสุวรรณ” ผอ.สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือพอช. ภายหลังผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org พยายามติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อขอสัมภาษณ์ กับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโครงการ “บ้านมั่นคง” ในพื้นที่ตั้งของกองการก่อสร้างสนามบิน (กสบ.) หมู่ 5 ริมคลองลาดพร้าว เขตสายไหม
หลังจากเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2560 สำนักงานเขตสายไหม ได้ทำประกาศปิดห้ามเข้าใช้อาคาร 40 คูหา ในโครงการฯ แห่งนี้ ซึ่งเป็นของสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงเพิ่มทรัพย์สินสมบุญ จำกัด ที่เกิดจากการรวมตัวของ 8 ชุมชนภายหลังตรวจสอบพบว่า แบบการก่อสร้างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับวันละ 3 หมื่นบาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 40 (2) แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2543
คำสั่งดังกล่าวได้สร้างความกังวลให้แก่สมาชิกของสหกรณ์ฯ เพราะไม่สามารถเข้าอยู่ในอาคารพักอาศัยได้ แม้กำลังจะก่อสร้างแล้วเสร็จ หากคำนวณระยะเวลาตั้งแต่การย้ายออกมาเพื่อมอบพื้นที่ให้แก่โครงการฯ จนถึงปัจจุบันเกือบ 1 ปีเต็มแล้ว แน่นอนว่า ย่อมมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าเช่าบ้านเฉลี่ยเดือนละประมาณ 3,000-5,000 บาท
ต่อมาวันที่ 11 ม.ค. 2561 นางรัตนธร รัตนสกุล ผู้อำนวยการเขตสายไหม เรียกทุกฝ่ายเข้าประชุมทันที เพื่อชี้แจงถึงความจำเป็นในการออกคำสั่งห้ามเข้าใช้อาคารดังกล่าว โดยระบุเนื่องจาก พอช.ออกแบบก่อสร้างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายเดิมระบุให้ระยะร่นของคลองต้องอยู่ห่างเข้าไป 6 เมตร แต่เพื่อขับเคลื่อนโครงการฯ ได้อย่างรวดเร็ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 9/2560 เรื่อง การดำเนินโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากร เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกลำน้ำสาธารณะ กำหนดให้ระยะร่นเหลือเพียง 2 เมตร และ พอช. จะต้องทำมาตรการสิ่งแวดล้อม โดยประกาศเมื่อ 10 ต.ค. 2560
แต่ พอช. ยังไม่สามารถแก้ไขแบบก่อสร้างแล้วเสร็จ ทำให้สำนักงานเขตจำเป็นต้องออกคำสั่ง มิฉะนั้นจะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมวันนั้น ได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่พอช. ซึ่งเป็นผู้ออกแบบการก่อสร้างโครงการฯ โดยได้สะท้อนปัญหาไม่สามารถแก้ไขได้แล้วเสร็จในทันที เนื่องจากมีภาระงานค่อนข้างมาก แต่จะดำเนินงานและส่งมอบให้ทันในวันที่ 17 ม.ค. 2561 หรืออีกประมาณ 1 สัปดาห์ต่อมา
ระยะเวลาผ่านมาเกือบครึ่งเดือน ล่าสุด พอช.ยังไม่ส่งแบบก่อสร้างโครงการฯ ฉบับแก้ไข แม้ทางสำนักงานเขตพยายามกำชับให้เร่งดำเนินการ และร้องขอไปยังผอ.พอช.ให้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ เนื่องจากปัจจุบันมีเพียงรายเดียว ทำให้ต้องรับภาระงานที่มีจำนวนมาก แต่ปรากฎว่า ไม่มีการตอบรับกลับมาใด ๆ
ส่วนในพื้นที่ก่อสร้างเจ้าหน้าที่ได้เดินหน้าปรับรูปแบบให้มีระยะร่นเหลือไม่น้อยกว่า 2 เมตร นำหน้าไปก่อนใกล้เสร็จสิ้นแล้ว แต่ในเมื่อแบบก่อสร้างไม่เรียบร้อย สำนักงานเขตไม่อนุมัติ ชาวบ้านจะไม่สามารถเข้าพักอาศัยได้
ขณะที่ รายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 4 ก.พ. 2561 จะมีการเรียกทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมเพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาอีกครั้ง
แม้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ระดับชาติ แต่ “รอช้า” ไม่ได้ เพราะทั้งหมดคือความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ พอช. ต้องใส่ใจ .
อ่านประกอบ:ผอ.เขตสายไหมเผย พอช.ยังไม่ส่งแบบแก้ ‘บ้านมั่นคง’-ชาวบ้านโอดเสียค่าเช่าบ้านนาน 1 ปีแล้ว
ห่างคลองไม่ถึง 2 ม. ผอ.เขตสายไหมแจงไม่ออกใบอนุญาต ‘บ้านมั่นคง’ - พอช.แก้แบบล่าช้า
เขตสายไหมปิดประกาศห้ามใช้อาคาร “บ้านมั่นคง” 40 คูหา ก่อสร้างไม่ได้รับอนุญาต