ททท.จับมือ พีทีทีจีซีและมูลนิธิอีโคอัลฟ์ ชวนอาสาสมัครดำน้ำเก็บขยะในโครงการUpcycilng the Ocean ,Thailand
ททท.จับมือ พีทีทีจีซี และ มูลนิธิอีโคอัลฟ์ (Ecoalf) สานต่อโครงการ Upcycilng the Ocean ,Thailand ชวน อาสาสมัครดำน้ำและเก็บขยะชายหาดป่าตอง,หาดในหาน,หาดในยางคืนความสวยงามให้ทะเลภูเก็ต
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2561 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) มูลนิธิอีโคอัลฟ์ (Ecoalf) สานต่อโครงการ Upcycilng the Ocean ,Thailand ปี 2 ขยายพื้นที่เพื่อจัดการขยะในทะเล ที่จังหวัดภูเก็ต โดยได้รับเกียรติจาก นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะในทะเล พร้อมด้วย นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต,นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย,นายปฏิภาณ สุคนธมาน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลายบริษัท พีทีทีโกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน)
โอกาสนี้ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ส่งมอบถังขยะและถุงขยะให้กับนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต จากนั้น นายฮาเวียร์ โกเยริเช่ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิอีโคอัลฟ์ พร้อมคณะ ได้ส่งมอบถังขยะและถุงขยะ ให้กับนางสาวเฉลิม ลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เพื่อส่งเสริมการทิ้งขยะในถังและการแยกขยะพลาสติกในพื้นที่หาดต่างๆในจังหวัดภูเก็ต โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากศิลปินดาราจิตอาสา ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก และอเล็กซ์ เรนเดลร่วมดำน้ำเก็บขยะ และ ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์ ร่วมเก็บขยะ บริเวณชายหาดกับเหล่าอาสาสมัครกว่า 1,000 คนที่หาดป่าตอง,หาดในหานและหาดในยาง ด้วย
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การจัดกิจกรรม Upcycilng the Ocean ,Thailand ในครั้งนี้เป็นการปรับรูปแบบการจัดกิจกรรมโดยนำสิ่งที่ถูกลืมไปนานแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ นำสิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการ สิ่งที่เจ้าของทิ้งนำมาแปรเปลี่ยนให้เป็นสิ่งที่มีค่า โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ไปพัฒนาจนเกิดเป็นนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยโลก สร้างวัฒนธรรมการท่องเที่ยวแนวใหม่เพื่อคืนความสุขให้โลก มาช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม รักษาภูเก็ต รักษาชุมชนร่วมกัน เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน คืนบ้านคืนธรรมชาติให้ปลาและเต่า
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในนามของชาวจังหวัดภูเก็ต รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกิจกรรมโครงการ Upcycilng the Ocean ,Thailand ในครั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเดินทางมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2561 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 18 ล้านคน ทั้งนี้ จากข้อมูลของสนามบินภูเก็ต พบว่า ในปีนี้มีนักท่องเที่ยว เดินทางมาภูเก็ตวันละ 64,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 และจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจังหวัดภูเก็ตได้กำหนดแนวทางในการรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งเรื่องของการควบคุมขยะและน้ำเสียโดยการสร้างจิตสำนึกของชุมชน,ประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตที่จะต้องร่วมการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและชุมชนให้มีความสะอาดเพื่อสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยได้มีการจัดโครงการตาสับปะรดเพื่อเฝ้าระวังดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของจังหวัดภูเก็ตอย่างยั่งยืน ซึ่งขณะนี้มีเครือข่ายตาสับปะรดกว่า 400 คนเข้าร่วมโครงการเพื่อร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
สำหรับการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ จะช่วยสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เพราะบ้านเมืองที่สะอาดจะเป็นการผลักดันส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เห็นความสำคัญของการรักษาความสะอาดของแหล่งท่องเที่ยวและบ้านเมืองของจังหวัดภูเก็ตตามไปด้วย
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทยถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนทั่วโลก แต่เป็นที่น่าตกใจว่า ประเทศไทยติดอันดับประเทศที่มีการทิ้งขยะลงสู่ทะเลเป็นอันดับที่ 5 ของโลก โดยพบว่าขยะร้อยละ 80 มาจากบนบกซึ่งส่วนใหญ่เป็นถุงพลาสติกขวดน้ำและเศษอาหาร อันนำไปสู่ผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศทางทะเลเป็นอย่างมาก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในฐานะองค์กรหลักที่ดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ และมีแนวทางที่จะมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับแนวทางที่รัฐบาลกำหนดไว้ โดยดำเนินการผลักดันแนวทางการทำตลาด 3 แนวทาง คือ การสร้างกระแสการใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพื่อชะลอความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางการท่องเที่ยว, การสร้างสรรค์เนื้อหา Content เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าท่องเที่ยวไทยและการขยายฐานตลาดนักท่องเที่ยว
ด้านนายปฏิภาณ สุคนธมาน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลายบริษัทพีทีทีโกลบอลเคมิคอลจำกัด(มหาชน) กล่าวว่า PTTGC ได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการ Upcycilng the Ocean Thailand โดยผนึกกำลังร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและ มูลนิธิอีโคอัลฟ์ เพื่อนมุ่งส่งเสริม การจัดการปัญหาขยะในทะเลและพื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทยให้สวยงามอย่างยั่งยืน โดย PTTGC ได้นำหลักการ Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียนมาเป็นแนวทางในการต่อยอดการบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจรโดยนำนวัตกรรมเข้ามาสร้างสรรค์การแปรรูปขยะพัทยาจากขวดพลาสติกใสหรือขวด PET และขยะจากพลาสติกโพลิเอทิลีน (PE) เช่น ถุงพลาสติก,ขวดพลาสติกทึบ มาแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพื่อการใช้ทรัพยากรให้มีประโยชน์สูงสุด ตอบรับนโยบายของภาครัฐในการกำจัดขยะตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ที่มุ่งเน้นการรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและสนับสนุนการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน
ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่เข้าร่วมโครงการ Upcycing the Ocean,Thailand โดยมีเป้าหมายเพื่อรณรงค์และบริหารจัดการขยะในเมืองท่องเที่ยวทางทะเลหลักๆ ของประเทศไทย คือ เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง,จังหวัดภูเก็ตและเกาะสมุย,เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนจำนวนมากและเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปริมาณขยะมากขึ้น โดยโครงการฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการขยะในแหล่งท่องเที่ยวแถบชายฝั่งทะเลของไทยและการจัดการแหล่งท่องเที่ยวด้วยนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระตุ้นจิตสำนึกสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ได้แก่ หน่วยงานที่ดูแลพื้นที่ทะเลและชายฝั่ง,ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวชุมชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ฯลฯ ในการร่วมกันรักษาทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกระตุ้นให้เกิดกระแสการอนุรักษ์ท้องทะเลไทยและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ
ทั้งนี้ ได้มีการเข้าไปบริหารจัดการขยะและนำขยะพลาสติกมาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยนำไปแปรรูปเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตและออกแบบเป็นสินค้าแฟชั่น เช่น เสื้อผ้า,กระเป๋า,รองเท้า
นับตั้งแต่ที่ได้มีการเปิดตัวโครงการและกิจกรรมการเก็บขยะในทะเลที่เกาะเสม็ด จังหวัดระยองเมื่อกลางปีที่ผ่านมาโครงการมีความคืบหน้าพอสมควรได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรและหน่วยงานต่าง ๆ ภาครัฐภาคเอกชนรวมถึงภาคประชาชนที่พร้อมเข้าร่วมและสนับสนุนในพื้นที่นำร่อง ณ เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ทำให้โครงการสามารถรวบรวมขยะจากโครงการจำนวน 10 ตันตามเป้าหมายมาแปรรูปให้เป็นวัตถุดิบและพัฒนาเป็นผืนผ้าได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นCollection Thailand เพื่อจำหน่ายได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้
พันธมิตรทั้ง 3 องค์กร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ,บริษัทพีทีทีโกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) และ มูลนิธิอีโคอัลฟ์ (Ecoalf) คาดหวังว่าโครงการ Upcycilng the Ocean Thailand นี้ จะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยาวนาน ช่วยลดปัญหาขยะได้อย่างยั่งยืนและอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทยให้สวยงามเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง