ฆ่าเขาทำไม? ทหารพรานขวัญใจชาวบ้าน!
แม้ข่าวลอบยิง ลอบวางระเบิดทหารพรานชายแดนใต้จะเกิดขึ้นบ่อยๆ จนแทบจะเป็นเรื่องธรรมดาจากปลายด้ามขวาน ในฐานะกองกำลังติดอาวุธที่เป็นคู่ต่อกรกับกลุ่มก่อความไม่สงบ
แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีไม่บ่อยครั้งนักเวลาทหารพรานตกเป็นเป้าสังหาร แล้วจะมีชาวบ้านแห่กันมาร่วมพิธีศพเฉกเช่น "วีรบุรุษ"
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแล้วกับการสูญเสีย อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ไพศาล ลาแล วัย 27 ปี เจ้าหน้าที่ชุด "ญาลันนันบารู" สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 เขาถูกยิงขณะกำลังจอดรถหน้าบ้านที่เช่าอยู่กับภรรยาใน ต.ตันหยงลูโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี มือปืนขับรถมาจอดรออยู่ก่อนแล้ว และลั่นกระสุนสังหารเขาทันที โดยไม่ได้สนใจว่าจุดที่ก่อเหตุอยู่ข้างโรงเรียนจงรักสัตย์วิทยาปัตตานี
ไม่บ่อยครั้งนักที่ อส.ทพ.ไพศาล จะได้เวรพัก เพราะเขาเป็นเจ้าหน้าที่ประจำโครงการ "ญาลันนันบารู" หรือชื่อไทยว่า "ทางสายใหม่" เพื่อช่วยเยาวชนกลุ่มเสี่ยงไม่ให้ตกเป็นทาสของยาเสพติด งานของ อส.ทพ.ไพศาล รัดตัวจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน วันเกิดเหตุเขาเพิ่งได้หยุดพัก จึงรีบบึ่งรถมาหาภรรยาและลูกรักที่บ้าน แต่แล้วความหวังที่จะได้กอดลูกเมียก็พังทลายเพราะกระสุนของคนร้ายที่มาเฝ้ารอเอาชีวิต
"ก่อนเกิดเหตุ แฟนโทรมาบอกว่าจะกลับบ้าน" เป็นเสียงเล่าที่ยังไม่หยุดสะอื้นของ นิเมาะ ลาแล ภรรยาของ อส.ทพ.ไพศาล
"ตอนนั้นเราอยู่บ้านแม่ ห่างจากบ้านที่เช่าอยู่กับแฟนประมาณ 200 เมตร พอแฟนใกล้ถึงบ้าน ก็โทรมาบอกเราว่าใกล้ถึงแล้ว เราก็รีบมาเปิดประตูบ้าน กะว่ามาเปิดประตูกินข้าวกับแฟนเสร็จ ก็จะกลับไปรับลูกที่บ้านแม่มาเล่นด้วยกัน แต่ไม่นานนัก ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ได้ยินเสียงปืน ตอนแรกคิดว่าเสียงประทัด ก็เฉยๆ แต่เสียงปังๆ ดังรัวไม่หยุด ก็คิดว่ามันเป็นเสียงปืนแน่ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแฟน ตอนหลังวิ่งออกไปดูเพิ่งรู้ว่าเป็นเขา จากนั้นก็ทำอะไรไม่ถูก ตอนเกิดเหตุ ตรงนั้นมันมืดมองอะไรไม่เห็น ก็เลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างไร"
นิเมาะ ยอมรับว่า หลังต้องสูญเสียสามีไปแบบกะทันหัน ทำให้รู้สึกมืดแปดด้าน คิดอะไรไม่ออก เพราะที่ผ่านมาสามีเป็นคนดูแลทุกอย่าง เธอเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกชายวัย 10 เดือนเท่านั้น
"เขาเป็นคนรักครอบครัว ชอบช่วยเหลือคนอื่น ทุกครั้งที่เงินเดือนใกล้ออก แฟนจะบอกว่าเงินจะออกแล้วนะ ขอเท่านั้นเท่านี้แบ่งให้กับเด็กกำพร้า สงสารเด็ก และเงินเบี้ยเลี้ยงที่ไปทำงานในโครงการญาลันนันบารู แฟนก็บอกตลอดว่าขอให้เด็ก ให้เป็นทุนการศึกษา เขาจะให้ทุกที่ที่เขาไป เพราะงานของเขาไปทั่วทั้ง 3 จังหวัด ชาวบ้านก็รักเขา ทุกคนรักเขา แต่ทำไมต้องมาทำเขาด้วย" นิเมาะ ตั้งคำถามทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีคนตอบ
พิธีละหมาดและฝังศพ อส.ทพ.ไพศาล ที่สุสานบ้านซีแซะใน ต.บาโระ อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของเขา คลาคล่ำไปด้วยผู้คน ทั้งญาติมิตร ชาวบ้านทั่วไปที่ทราบข่าว และผู้บังคับบัญชากับเพื่อนทหารที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47 ปริมาณคนที่ไปร่วมพิธีฝังศพ บ่งบอกถึงความรักของคนสามจังหวัดที่มีต่อตัวเขา
"เขาเป็นคนดี ชาวบ้านรักเขามาก" อับดุลรอซิ ทาเนาะ นายก อบต.บาโระ ยืนยันถึงความรู้สึกที่คนในพื้นที่มีต่อ อส.ทพ.ไพศาล
"เขาเป็นคนมีจิตอาสา เขาให้ความร่วมมือ ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านทุกคนอย่างเวลาชาวบ้านเดือดร้อน ไม่ว่าจะเรื่องน้ำท่วมหรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เขาจะหาข้าวสารมาให้ เขาทุ่มเทกับทุกคน ช่วยเหลือทุกคนที่เดือดร้อน" อับดุลรอซิ ยกตัวอย่างความมีน้ำใจของ อส.ทพ.ไพศาล
งานในโครงการ "ญาลันนันบารู" ซึ่งเขาทุ่มทำอย่างตั้งใจและจริงใจ ทำให้ชาวบ้านเทใจให้กับเขา
"ชาวบ้านที่นี่ไม่มีปัญหาอะไรกับเขาแน่นอน" นายกอบต.บาโระ เน้นเสียงเข้ม
"ที่สำคัญชุมชนที่นี่ปลอดยาเสพติด เพราะเขาดูแลบ้านเกิดของเขาเป็นอย่างดี พูดกับทุกคน คุยกับเยาวชนมาตลอด ทุกคนก็เข้าใจและเชื่อเขา ที่สำคัญคือรักเขามาก เขาเป็นวิทยากรหลายๆ พื้นที่ในสามจังหวัด เยาวชนรู้จักเขาเยอะ สิ่งที่เขาเล่าให้เยาวชนฟัง ล้วนเป็นสิ่งดีๆ เขาเน้นเรื่องความรักของพ่อแม่ หลายๆ ครั้งผมเห็นเยาวชนถึงขั้นร้องไห้หลังจากฟังเขาพูด และเลิกยาเสพติดจนได้ เราก็เสียดายที่เขาจากไป ยังคิดอยู่ว่าถ้าเขาอยู่เขาก็สามารถช่วยเหลือคนได้อีกเยอะ"
ความเป็นคนดีและคนเก่งของ อส.ทพ.ไพศาล ยังได้รับการยืนยันจากผู้บังคับบัญชาในหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47
"ไพศาลเป็นคนเก่ง เป็นคนดี เยาวชนนับหมื่นคนในสามจังหวัดเลิกยาได้เพราะมีเขาเป็นกำลังสำคัญ" พ.ท.กฤตณ์พัทธ์ กรกัน บอก
"เขาขึ้นเวทีบรรยายเรื่องของสถาบันครอบครัวและครูบาอาจารย์ ถือเป็นเรื่องใกล้ตัว ทำให้คนที่เข้ารับการอบรมในโครงการสัมผัสได้ว่าเป็นเรื่องจริง ที่สำคัญทั้งเงินเบี้ยเลี้ยงและค่าวิทยากร เขาไม่เคยรับเลย เขาจะมอบเป็นทุนการศึกษาสำหรับเด็กที่เรียนดี เด็กที่ลำบาก ครอบครัวยากจน เด็กนักเรียนก็รักเขา ทุกครั้งที่เขาบรรยายเขาสามารถเรียกน้ำตาจากเด็กๆ ได้"
ก่อนจะกลายเป็น "มือบน" ทำหน้าที่ช่วยเหลือเด็กๆ ชีวิตของ อส.ทพ.ไพศาล ก็มีปัญหาไม่น้อย พ่อกับแม่ของเขาถูกยิงเสียชีวิตพร้อมกันทั้งสองคนในสวนยางพารา เมื่อ 13 เมษาฯ 58
"หลังจากสูญเสียพ่อกับแม่ไป ไพศาลก็คือเสาหลักของบ้าน" ซันซียะ ลาแล พี่สาวของ อส.ทพ.ไพศาล บรรยายถึงความดีของน้องชาย
"เขาไม่ใช่ลูกคนโต แต่ช่วยเหลือพี่น้องทุกคน เป็นผู้ปกครองแทนทุกคน ในบ้านเรามีกัน 7 คน พี่ชายคนโตทำงานเป็นลูกจ้างโครงการจ้างงานเร่งด่วน 4,500 บาทที่ อบต.บาโระ ได้โควต้าจากที่พ่อแม่เสียชีวิต พี่คนรองเป็น อส. (อาสารักษาดินแดน) อยู่ที่ อ.ยะหา คนที่สามคือตัวฉันเอง ทำงานอยู่เทศบาลตำบลยะหา คนที่ 4 คือไพศาล คนที่ 5 ทำงานเป็นลูกจ้างฯ 4,500 ของ อบต.เช่นกัน คนที่ 6 กำลังเรียนอยู่ ปวส. ส่วนคนที่ 7 เพิ่งอยู่ ม.1 หลังจากที่ไพศาลเสียชีวิต ทุกคนก็เหมือนขาดเสาหลัก เพราะเขาเป็นได้ทั้งพ่อและแม่ เขาเป็นน้องก็จริง แต่ความคิดความอ่านในการดูแลครอบครัวมีสูงมากๆ"
ซันซียะ บอกด้วยว่า ก่อนที่น้องชายจะเสียชีวิต เพิ่งจะคุยกันเรื่องเตรียมทำบุญให้กับพ่อกับแม่ คุยกันว่าจะทำอาหารอะไร แต่น้องก็มาเสียชีวิตเสียก่อน
การต้องมาตายก่อนวัยอันควรของเจ้าหน้าที่ดีๆ อย่าง อส.ทพ.ไพศาล ทำให้ชาวบ้านทั่วไปอยู่ในอาการสงบนิ่ง เพราะรู้ดีว่าใครคือคนที่ "สั่งตาย"
"พ่อกับแม่เขาก็เสียชีวิต มันชัดเจนว่าใครทำ" ชาวบ้านคนหนึ่งให้ข้อมูล "ล่าสุดมาที่เขาอีก ทุกคนก็มองชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ใครที่ทำเขา หลายคนรู้ แต่มันก็ยากที่จะพูด อยู่ที่นี่ ปิดหูปิดตาตัวเองเอาไว้จะดีที่สุด อยากให้เจ้าหน้าที่มีความจริงจังจริงใจในการแก้ปัญหา"
ชาวบ้านอีกคนพูดแบบตรงไปตรงมา แต่ไม่กล้าเปิดเผยชื่อ
"สิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนี้ ถือว่าเกิดมาจาก ความไม่สงบในพื้นที่ ถึงแม้บ้านเขาอยู่ยะหา ภรรยาเขาอยู่ปัตตานี ทุกอย่างก็สามารถเชื่อมกันได้ เจ้าหน้าที่มีระดับขั้นในการทำงาน แบ่งจังหวัด แบ่งพื้นที่ กลุ่มขบวนการเขาก็มีเหมือนกัน เขาสามารถลิงค์กันข้ามจังหวัดได้"
ในฐานะกำลังพลในพื้นที่ เมื่อความสูญเสียเกิดขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะระดมกันช่วยเหลือเรื่องเงินเยียวยา พ.ท.กฤตณ์พัทธ์ กรกัน ผู้บังคับบัญชาของ อส.ทพ.ไพศาล บอกว่า เมื่อได้รับการรับรองจาก 3 ฝ่าย (ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง) ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบจริงๆ ก็จะมีเงินเยียวยาเงินจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ค่าสินไหมจากหน่วยต้นสังกัด สินไหมพิทักษ์กลาโหมบำรุงขวัญจากผู้บัญชาการทหารบก และเงินเยียวยาจากแหล่งอื่นๆ เบื้องต้นได้ช่วยค่าทำศพแก่ครอบครัวไป 32,000 บาท และเตรียมบรรจุทายาท ซึ่งอาจเป็นภรรยา เข้าไปเป็นทหารพรานหญิงแทน จะได้มีรายได้เป็นเงินเดือนจุนเจือครอบครัว รวมทั้งดูแลเรื่องทุนการศึกษาของลูกชายไปตลอด
ขณะที่ อับดุลรอซิ ทาเนาะ นายก อบต.บาโระ ซึ่งรู้สึกเสียดายคนดีๆ อย่าง อส.ทพ.ไพศาล เขาฝากทิ้งท้ายไว้เพียงว่า อยากให้เยาวชนในสามจังหวัดมอง อส.ทพ.ไพศาล เป็นแบบอย่าง โครงการที่เขาทำเป็นโครงการช่วยเหลือสังคมที่ดีมาก เพราะยาเสพติดระบาดหนักจริงๆ ในสามจังหวัด ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกัน
แม้ไม่มี อส.ทพ.ไพศาล อยู่แล้วก็ตาม...
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 และ 3 ชาวบ้านจำนวนมากไปร่วมพิธีละหมาดและฝังศพ อส.ทพ.ไพศาล
2 และ 4 ภรรยาของ อส.ทพ.ไพศาล ร่ำไห้เหมือนจะขาดใจ
5 ผู้บังคับบัญชากองกำลังทหารพราน มอบเงินช่วยค่าทำศพเบื้องต้น
อ่านประกอบ : ยิงดับ จนท.ญาลันนันบารู ช่วยเยาวชนชายแดนใต้เลิกยา!