แกะรอยเงินลงทุนร้านอาหารใหม่ 'ภรรยา'อุดมเดช- ปริศนาโชว์รายได้ 9.5 ล.ขายดีมาก?
"...ณ จุดนี้ คงยังไม่สามารถฟันธงได้ชัดเจนว่า นางวิภาดา ขาดทุนจากการลงทุนในร้านมาเลศ เพราะในการแจ้งข้อมูลบัญชีทรัพย์สิน มิได้ระบุข้อมูลที่ชัดเจน อาทิ วันที่เริ่มเข้าไปลงทุน? ตัวเลขรายได้จำนวน 9,564,587 บาท ที่แจ้งไว้กับ ป.ป.ช. เป็นรายได้รายปี หรือรายเดือน ซึ่งหากคิดเป็นรายได้รายเดือน ถ้านำตัวเลขรายได้ 9,564,587 บาท มาคำนวน 12 เดือน จะเฉลี่ยตกอยู่ที่เดือนละ 797,048.917 บาท.."
ชื่อ ร้านมาเลศ คอฟฟี่ แอนด์ เบเวอเรช และ บริษัท มาเลศฟู้ด จำกัด ปรากฎอยูในบัญชีแสดงรายการทรัยพ์สินและหนี้สิน ของ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ช่วงพ้นจากตำแหน่ง รมช.กลาโหม ที่แจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า เป็นหนึ่งในรายจ่ายของนางวิภาดา สีตบุตร คู่สมรสภรรยา
ระบุว่า มีเงินลงทุนจากร้านมาเลศ คอฟฟี่ แอนด์ เบเวอเรช จำนวน 1,566,058 บาท, เงินลงทุนบริษัทมาเลศ ฟู้ด จำกัด จำนวน 1,400,000 บาท และรายจ่ายจากร้านมาเลศจำนวน 8,820,201 บาท
รวมวงเงินทั้งสิ้น 11,786,259 บาท (อ่านประกอบ : เช็ครายจ่าย 'อุดมเดช'พ้น รมช.กลาโหม ซื้อที่หนองจอก12 ล.-ทุบกระปุกทำกิจการเพียบ!)
ข้อมูลละเอียดเกี่ยวกับ ร้านมาเลศ คอฟฟี่ แอนด์ เบเวอเรช และ บริษัท มาเลศฟู้ด จำกัด เป็นอย่างไรบ้าง?
จากการตรวจสอบข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท มาเลศฟู้ด จำกัด แจ้งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2560 ทุน 2 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 932/7 ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร (จดทะเบียนตั้งบริษัทหลัง พล.อ.อุดมเดช พ้นตำแหน่ง 4 เดือนเศษ)
แจ้งประกอบธุรกิจจำหน่ายอาหาร เบเกอรี่ รับจัดเลี้ยง ออกร้าน และจัดงานเกี่ยวกับอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่มทุกชนิด
ปรากฎชื่อ นางวิภาดา สีตบุตร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือ ณ 14 กรกฎาคม 2560 แจ้งว่า นางวิภาดา สีตบุตร ถือหุ้นใหญ่สุด 70% มูลค่า 1,050,000 บาท นาง ศรัณยา ภาชนะทิพย์ (ภรรยา พ.อ.พงษ์สวัสดิ์ ภาชนะทิพย์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่15 จ.เพชรบุรี) 20% 300,000 บาท น.ส. ภคณัฎฐ์ บุญถนอม 10% 150,000 บาท
ล่าสุดยังไม่ได้นำส่งข้อมูลงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับ ร้านมาเลศ คอฟฟี่ แอนด์ เบเวอเรช ไม่ได้มีการระบุในบัญชีทรัพย์สินมากนัก แจ้งแค่ว่า ร้านมาเลศทำรายได้ให้เป็นจำนวนเงิน 9,564,587 บาท เท่านั้น
หากนำมาเปรียบเทียบกับเงินทุนร้านมาเลศจำนวน 1,566,058 บาท ที่ควักจ่ายไป จะพบว่ามีกำไรถึง 7,998,528 บาท
แต่ถ้านำผลกำไรจำนวน 7,998,528 บาท มาเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่าย จำนวน 8,820,201 บาท จะพบว่าขาดทุนติดลบอยู่ 821,672 บาท
อย่างไรก็ตาม ณ จุดนี้ คงยังไม่สามารถฟันธงได้ชัดเจนว่า นางวิภาดา ขาดทุนจากการลงทุนในร้านมาเลศ เพราะในการแจ้งข้อมูลบัญชีทรัพย์สิน มิได้ระบุข้อมูลที่ชัดเจน อาทิ วันที่เริ่มเข้าไปลงทุน? ตัวเลขรายได้จำนวน 9,564,587 บาท ที่แจ้งไว้กับ ป.ป.ช. เป็นรายได้รายปี หรือรายเดือน
ซึ่งหากคิดเป็นรายได้รายเดือน ถ้านำตัวเลขรายได้ 9,564,587 บาท มาคำนวน 12 เดือน จะเฉลี่ยตกอยู่ที่เดือนละ 797,048.917 บาท
นับเป็นตัวเลขรายได้ตอบแทนที่ไม่ธรรมดา สำหรับการประกอบกิจการร้านกาแฟ ในยุคปัจจุบันนี้
ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ อาจเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ ป.ป.ช. น่าจะมีการทำเรื่องขอให้ พล.อ.อุดมเดช และคู่สมรส ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาอีกครั้ง
เช่นเดียวกับ ประชาชนทั่วไป ใครมีข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารแห่งนี้ ทั้งภาพถ่าย ประสบการณ์การใช้บริการ แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาที่สำนักข่าวอิศรา ผ่านทางอีเมล หรือแฟนเพจสำนักข่าวอิศรา ให้รับทราบด้วย จะถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง