คุกอ่วม 78 ปี 30 เดือน “วัฒนา” วิศวกรเสื้อแดง มือบึ้ม กทม.3 คดีรวด
ศาลอาญาจำคุกอ่วม 78 ปี 30 เดือน “วัฒนา” อดีตวิศวกรไฟฟ้าแนวร่วมเสื้อแดง วางบึ้ม กทม. ระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ-หน้ากองสลากเดิม และเมเจอร์รัชโยธิน รวม 3 คดี
ที่ห้องพิจารณาคดี 902 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 13.40 น.วันนี้ (18 ม.ค.) ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีระเบิดในพื้นที่ กทม.ระหว่างปี 2550-2560 รวม 3 สำนวน ประกอบด้วย คดีหมายเลขดำที่ อ.3220/2560, อ.3221/2560 และ อ.3222/2560 ที่พนักงานอัยการคดีอาญาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวัฒนา หรือตุ่ม ภุมเรศ อายุ 63 ปี อดีตวิศวกรการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นจำเลยในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) และทำให้เกิดระเบิดจนมีผู้บาดเจ็บสาหัส, มีวัตถุระเบิดและยุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาวัตถุระเบิดไปในเมืองหรือที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371, พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490 และ พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 จากกรณีที่นายวัฒนาประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ และนำไปวางไว้ที่ทางเท้าบริเวณหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (กองสลากเดิม) ถ.ราชดำเนินกลาง จนทำให้เกิดระเบิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เมื่อวันที่ 4-5 เม.ย. 2560, ที่ใต้ต้นไม้ บนฟุตบาทหน้าโรงละครแห่งชาติ เขตพระนคร จนทำให้เกิดระเบิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เมื่อวันที่ 14-15 พ.ค. 2560 และที่บริเวณตู้โทรศัพท์หน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ รัชโยธิน เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2550
โดยนายวัฒนา จำเลยให้การรับสารภาพทั้ง 3 สำนวน ซึ่งตลอดการพิจารณาคดีตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2560 จำเลยไม่ได้ยื่นประกันตัว จึงถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร วันนี้ (18 ม.ค.) ศาลเบิกตัวนายวัฒนามาฟังคำพิพากษาทั้ง 3 สำนวนในเวลาเดียวกัน ขณะที่จำเลยแจ้งความประสงค์ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ
เมื่อถึงเวลานัด ศาลได้อ่านคำพิพากษาเป็นรายคดี คดีแรกที่ อ.3220/2560 กรณีระเบิดหน้ากองสลากเดิม ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานอัยการโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง ซึ่งเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อันเป็นบทหนักสุด จำคุกตลอดชีวิต, ฐานประกอบวัตถุระเบิดและทำให้เกิดระเบิด จำคุก 3 ปี, ฐานครอบครองยุทธภัณฑ์ จำคุก 1 ปี และพกพาวัตถุระเบิดไปในที่สาธารณะฯ ปรับ 1,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุกรวมทั้งสิ้น 26 ปี 12 เดือน ปรับ 500 บาท พร้อมให้ชดใช้หญิงผู้เสียหาย 1 ราย ที่ยื่นคำร้องขอในส่วนแพ่ง จำนวน 130,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันเกิดเหตุ
ส่วนคดีที่ อ.3221/2560 กรณีระเบิดหน้าโรงละครแห่งชาติ ศาลมีคำพิพากษาเช่นเดียวกันกับคดีระเบิดหน้ากองสลากเดิม โดยให้จำคุกรวมทั้งสิ้น 26 ปี 12 เดือน ปรับ 500 บาท แต่คดีนี้ให้ชดใช้ผู้เสียหาย 1 ราย ที่ยื่นคำร้องขอในส่วนแพ่ง จำนวน 10,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันเกิดเหตุ
และคดีที่ อ.3222/2560 กรณีระเบิดหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ฯ เมื่อปี 2550 นั้น พยานหลักฐานรับฟังได้เพียงว่าจำเลยกระทำความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตาม มาตรา 289 (4) และ พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ฯ พ.ศ. 2530 ศาลจึงพิพากษาให้จำคุกรวม 26 ปี 6 เดือน ซึ่งรวมจำคุกทั้ง 3 สำนวนแล้ว เป็นเวลาทั้งสิ้น 78 ปี 30 เดือน ปรับ 1,000 บาท และชดใช้ค่าเสียหายรวม 140,000 บาท โดยศาลให้นับโทษนายวัฒนาต่อจากคดีที่ศาลอาญาได้เคยพิพากษาไปแล้วอีก 2 สำนวนด้วย คือ คดีครอบครองวัตถุระเบิดที่บ้านพักของจำเลยย่านบางเขน จำคุก 4 ปี ปรับ 975 บาท และคดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เดือน พ.ค. 2560 จำคุก 26 ปี 12 เดือน ปรับ 500 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการอ่านคำพิพากษา นายวัฒนาได้แถลงต่อศาลว่า ที่ผ่านมาตนให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงานอย่างเต็มที่ 100% หวังจะให้ศาลพิจารณาบรรเทาโทษตามความเหมาะสม ขณะที่ผู้พิพากษาได้แจ้งกับนายวัฒนาว่า ศาลได้พิจารณาตามพยานหลักฐานและที่จำเลยรับสารภาพ รวมทั้งบทลงโทษตามกฎหมายแล้ว
ขณะที่ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว นายวัฒนาและภรรยาซึ่งเดินทางมาให้กำลังใจในวันนี้ก็ได้พยายามซักถามเรื่องการนับโทษกับพนักงานอัยการโจทก์ ส่วนทนายความจำเลยไม่ได้เดินทางมาศาล
อย่างไรก็ดี สำหรับคดีระเบิดในพื้นที่ กทม.ที่นายวัฒนาถูกอัยการยื่นฟ้องยังเหลืออีก 2 สำนวนที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล คือ 1. คดีหมายเลขดำที่ อ.2926/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2560 กรณีเมื่อวันที่ 27-30 ก.ย. 2550 จำเลยนำระเบิดแสวงเครื่องที่ใส่ชิ้นส่วนโลหะ แบตเตอรี่ สายไฟ ดินดำ ในขวดพลาสติกซึ่งใส่น้ำมันเบนซิน และตั้งเวลาระเบิดไว้ 30 นาที นำไปวางไว้ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก เขตพระนคร เป็นเหตุให้ตำรวจ 2 นายได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยสูญเสียอวัยวะด้วย ขณะที่ตู้โทรศัพท์เสียหายเป็นเงิน 20,000 บาท
2. คดีหมายเลขดำที่ อ.3157/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2560 กรณีเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2550 จำเลยได้จัดเตรียมวัตถุระเบิดแสวงเครื่องไปป์บอมตั้งเวลา ใส่ไว้ในถุงพลาสติกแล้วนำไปวางไว้บนทางเท้าติดกับตู้โทรศัพท์สาธารณะของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริเวณปากซอยราชวิถี 24 แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต ซึ่งการระเบิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน และทำให้ตู้โทรศัพท์สาธารณะนั้นเสียหาย กระจกแตก เป็นเงิน 1,000 บาท