ย้อนรอยคดีทุจริตสนามฟุตซอลสพฐ.ก่อนป.ป.ช.รูดม่านปิดสำนวนเชือด'ส.ส.-บิ๊กขรก.-ครูนับร้อย'
"...ขั้นตอนการทุจริต กระทำกันอย่างเป็นระบบ โดยพบว่า ในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ของ สพฐ.ที่ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาทนั้น งบประมาณดังกล่าวได้มาจากการแปรญัตติของ สส. ที่ระบุเป็นค่าก่อสร้าง – ปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบ และสิ่งก่อสร้างที่ชำรุดทรุดโทรมที่ประสบอุบัติภัย แต่ปรากฎว่า ได้นำไปดำเนินการก่อสร้างสนามฟุตซอล และเจาะจงส่งงบประมาณไปในจังหวัดที่กลุ่มการเมืองต้องการ..."
ปรากฏเป็นข่าวดังต่อเนื่องมากว่า 1 สัปดาห์ ว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมเผยแพร่ผลสรุปการสอบสวนคดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนสังกัด สพฐ. วงเงินหลายร้อยล้านบาท เป็นทางการ เบื้องต้นจากการไต่สวนพบว่า คดีมีมูลทุจริต มีการวางแผนงานทำกันเป็นขบวนการ มีผู้เกี่ยวข้อง 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. ส.ส.ที่แปรญัญติงบมาใช้ทำโครงการ 2. บริษัทเอกชนที่ปรากฎชื่อเข้าไปรับงาน ซึ่งหลายบริษัทมีความเชื่อมโยงกับส.ส.ด้วย 3. ผู้บริหารระดับสูงใน สพฐ. 4. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในพื้นที่ต่างๆ และ 5. ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ได้รับงบประมาณในการดำเนินงานโครงการ รวมจำนวนผู้เกี่ยวข้องนับร้อยคน โดยเฉพาะในส่วนของครูโรงเรียนต่างๆ (อ่านประกอบ : จำแนก5กลุ่ม ครูเอี่ยวนับร้อย'ส.ส.-บิ๊กสพฐ.'โดนด้วย! ป.ป.ช.จ่อฟันคดีทุจริตส.ฟุตซอลทั่วปท.)
ขณะที่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีการออกข่าวอย่างต่อเนื่องว่า มีโรงเรียนที่ถูกตรวจสอบพบปัญหาก่อสร้างสนามฟุตซอลกว่า 56 แห่ง ล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่า ป.ป.ช.ได้มีมติแจ้งข้อกล่าวหา อดีตส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย พร้อม อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. กับพวก ซึ่งเป็นข้าราชการ เอกชน และนักการเมือง รวมเกือบ 30 คน ว่าร่วมกันทุจริตการก่อสร้างสนามฟุตซอล ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เขต 2 นครราชสีมาไปแล้ว
พร้อมระบุข้อมูลสำคัญว่า ขั้นตอนการทุจริต กระทำกันอย่างเป็นระบบ โดยพบว่า ในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ของ สพฐ.ที่ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาทนั้น งบประมาณดังกล่าวได้มาจากการแปรญัตติของ สส. ที่ระบุเป็นค่าก่อสร้าง – ปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบ และสิ่งก่อสร้างที่ชำรุดทรุดโทรมที่ประสบอุบัติภัย แต่ปรากฎว่า ได้นำไปดำเนินการก่อสร้างสนามฟุตซอล และเจาะจงส่งงบประมาณไปในจังหวัดที่กลุ่มการเมืองต้องการ
ไม่ว่าข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสรุปผลการสอบสวนของป.ป.ช. เป็นทางการ จะออกมาเป็นอย่างไร เพื่อให้สาธารณชนรับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีมากขึ้น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ไล่เรียงข้อมูลที่เคยตรวจสอบพบไปมานำเสนอแบบชัดๆ ดังนี้
พฤติการณ์
ความเป็นมาของโครงการก่อสร้างสนามสนามฟุตซอล เกิดจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในยุค รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 กว่า 600 ล้านบาท ให้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในจังหวัดต่าง ๆ ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ รวม 17 จังหวัด
โดยงบประมาณดังกล่าวได้มาจากการแปรญัตติของ ส.ส. ที่ระบุเป็นค่าก่อสร้าง-ปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบ และสิ่งก่อสร้างที่ชำรุดทรุดโทรมที่ประสบอุบัติภัย แต่กลับนำไปก่อสร้างสนามฟุตซอล โดยเจาะจงส่งงบประมาณไปในจังหวัดข้างต้นที่กลุ่มการเมืองต้องการ โดยกลุ่มการเมืองไปติดต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้นำงบประมาณไปก่อสร้างตามโรงเรียนที่กำหนด โดยกำหนดให้ดำเนินการตามแนวทางการจัดซื้อจัดจ้าง การประกวดราคา การกำหนดราคากลาง รวมทั้งร่างบันทึกการกำหนดขอบเขตงาน (TOR) เป็นต้นทั้งนี้เพื่อต้องการให้บริษัทห้างร้านของกลุ่มการเมืองดังกล่าวเป็นผู้ได้รับงาน
ลักษณะของทุจริต
1.มีการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน โดยพื้นคอนกรีตไม่ถูกต้องตามคุณลักษณะเฉพาะ นำวัสดุแผ่นยางสังเคราะห์สำหรับสนามในร่มมาใช้ในสนามกลางแจ้งทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ และไม่มีความทนทาน เป็นการใช้วัสดุผิดประเภท เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการก่อสร้าง
2.ราคาแพงเกินจริง
3.ผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นพื้นที่ของนักการเมือง และ นักการเมืองเป็นผู้รับเหมา
จังหวัดมีการก่อสร้างสนามฟุตซอลในภาคอีสาน 9 จังหวัด ได้แก่ จ. ขอนแก่น ชัยภูมิ มุกดาหาร นครราชสีมา สกลนคร สุรินทร์ ยโสธร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และ ภาคเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ พะเยา เพชรบูรณ์ น่าน ตาก และ เชียงใหม่
ผู้รับเหมาที่ปรากฎชื่อเข้ามารับงาน จำแนกเป็น 2 กลุ่มหลัก
หนึ่ง กลุ่มอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี ได้แก่ บริษัท ลีกาฟุตซอล จำกัด บริษัท ออคตากอน มาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส จำกัด และ บริษัท อินแทรค แอนด์ โค จำกัด ของ เป็นผู้รับเหมาอย่างน้อย 28 แห่ง
สอง กลุ่มเกี่ยวข้องกับเครือญาติ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ได้แก่ บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด บริษัท ที วี เอ็น เทคโนโยลี จำกัด บริษัท วอเตอร์ฮีล แลนด์ จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด จีโอโอดี จำกัด บริษัท แกรนด์สยาม 98 จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มเอไอ เอ็นเตอร์ไพร์ส บริษัท วายอีอี จำกัด บริษัท สปอร์ต แอนด์ เกม จำกัด และ บริษัท วายเอเอ็ม บิสซิเนส จำกัด
ที่เหลือเป็นกลุ่มย่อยซึ่งบางแห่งเกี่ยวพันกับเครือญาติ อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจำนวน 4 คน
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล 10 ส.ค.54-18 ม.ค.55
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช 23 ม.ค.55-27 ต.ค.55
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา 1 พ.ย.55-30 มิ.ย.56
นายจาตุรนต์ ฉายแสง 30 มิ.ย.56-22 พ.ค.57
รัฐมนตรีช่วยฯ 4 คน ได้แก่
นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล 10 ส.ค.54-18 ม.ค.55
นางบุญรื่น ศรีธเรศ 10 ส.ค.54-18 ม.ค.55
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช 1 พ.ย.55-22 พ.ค.57
นายศักดา คงเพชร 23 ม.ค.55- 27 ต.ค.55
ในส่วนของเจ้าหน้าที่มีข้าราชการครูเกี่ยวข้องกว่า 800 คน รวมถึง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา และผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง บางรายปรากฎชื่อเป็นคณะกรรมการตรวจสอบงานก่อสร้างหลายโรงเรียน
ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ. ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนคดีนี้ ได้แก่ นายชินภัทร ภูมิรัตน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
ส่วนการตรวจสอบของหน่วยงานภาครัฐ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นผู้ตรวจสอบหลักทำงานร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต่อมา ป.ป.ท.ได้ส่งเรื่อง ให้ ป.ป.ช.เป็นผู้ตรวจสอบ โดย ป.ป.ช.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเมื่อ 25 พ.ย.57 ที่ผ่านมา
กรณีตัวอย่าง จ.นครราชสีมา
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบข้อมูลและหลักฐานสำคัญ ว่า การรับเหมาก่อสร้างสนามฟุตซอลของโรงเรียนใน จ.นครราชสีมา นั้นมีผู้รับเหมาอย่างน้อย 3 ราย หนึ่งในนั้นคือ บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอย่างน้อย 4 แห่ง รวมวงเงิน 19,986,000 บาท
บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด มี อดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้จดทะเบียนก่อตั้งและถือหุ้นใหญ่ ได้โอนหุ้นให้คนใกล้ชิดต่อ
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด จดทะเบียนวันที่ 19 เมษายน 2544 ทุนเพิ่มแรก 1 ล้านบาท ต่อมาเพิ่มเป็น 5 ล้านบาท ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างและค้าอุปกรณ์การเล่นกีฬา เครื่องสนามกีฬา,สนามเด็กเล่นรวมทั้งลู่วิ่งเครื่องออกกำลังกายต่างๆ ทุกชนิด
ที่ตั้งเลขที่ 5/195 ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ณ วันที่ 4 ก.ค.55 - 18 ส.ค.57 มี น.ส.สุธาดา เรืองพูน ถือหุ้นใหญ่ 36,000 หุ้น น.ส.กนกพันธุ์ คัมภิรานนท์ น.ส.วัชชา จงเทียมเท่า น.ส.จุฑาทิพย์ ภิรมย์ คนละ 500 หุ้น น.ส.ชฎานันท์ สุขเอม 7,500 หุ้น และ นายสุทธิพงษ์ ศิริบุญ 5,000 หุ้น รวม 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท น.ส.สุธาดา เรืองพูน เป็นกรรมการ
ขณะที่ น.ส.สุธาดา เรืองพูน ผู้ถือหุ้นใหญ่และกรรมการผู้มีอำนาจของ บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด แจ้งที่อยู่เลขที่ 5/195 ถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ และเป็นที่อยู่เดียวกับ สำนักงานของ บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด ตามที่จดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
โดย “ที่ตั้ง”เลขที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งเลขที่เดียวกับ “ที่อยู่”ของ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ตามที่ระบุในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 3 ครั้ง ครั้งแรก กรณีรับตำแหน่ง ส.ส.ชัยภูมิ เมื่อ 22 ม.ค.51 ครั้งที่สอง กรณีพ้นตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 10 พ.ค.54 และครั้งที่สาม กรณีรับตำแหน่ง ส.ส. 2 ส.ค.54
จากการตรวจสอบพบว่า โครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลที่ บริษัท พี อาร์ เอ็น อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด เป็นผู้รับเหมา ได้แก่
1.จ้างเหมาปรับปรุงสนามกีฬา ณ โรงเรียนบ้านปางแก(สภาประชานุกุล) ตำบลเทศบาลปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา วงเงิน 4,999,500 บาท
2.จ้างเหมาปรับปรุงสนามกีฬา ณ โรงเรียนเติมแสงไขปากช่อง ต.เทศบาลปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา วงเงิน 4,999,500 บาท
3.จ้างเหมาปรับปรุงสนามกีฬา ณ โรงเรียนบ้านป่าไผ่ ตงจันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา วงเงิน4,999,500 บาท
4.จ้างเหมาปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์ โรงเรียนศรีเจริญศึกษา อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ วงเงิน 4,987,500 บาท
3 โครงการแรก ทำสัญญาวันที่ 22 ส.ค. 55 ส่วนโครงการที่ 4 ทำสัญญาวันที่ 9 ส.ค. 55
@โยงกลุ่มอดีต ส.ส.-กลุ่มยี
จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท วายอีอี จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างสนามฟุตซอลในจ.นคราชสีมาอย่างน้อย 10 แห่ง วงเงินรวม 24,995,000 บาท และ หจก. เอ็มเอไอเอ็นเตอร์ไพร์ส 5 แห่ง 22,497,500 บาท
ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มเอไอ เอ็นเตอร์ไพร์ส จดทะเบียนวันที่ 8 สิงหาคม 2550 ทุน 444,444 บาท ที่ตั้งเลขที่ 52 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 67 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร มีหุ้นส่วน 2 รายคือ
1.นายยี พณิชยา อยู่บ้านเลขที่ 123/18 ถนนประชาชื่น เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ลงหุ้นด้วยเงิน 222,222 บาท
2.นายพิทูร มหานีรานนท์ อยู่บ้านเลขที่ 242/55 หมู่ที่ 9 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ลงหุ้นด้วยเงิน 222,222 บาท
บริษัท วายอีอี จำกัด จดทะเบียนวันที่ 9 สิงหาคม 2553 ทุน 1 ล้านบาท (ต่อมา 20 มี.ค.55 เพิ่มทุนเป็น 5 ล้านบาท) ประกอบธุรกิจ ขายส่งและขายปลีกอุปกรณ์การเล่นกีฬา เครื่องสนามกีฬา สนามเด็กเล่น เครื่องออกกำลังกาย รวมทั้งลู่วิ่ง ที่ตั้งเลขที่ 77/242 หมู่ที่ 6 หมู่บ้านฟ้าปิยรมย์ เฟส 5 ถนนพหลโยธิน ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ( 10 เม.ย.57 ย้ายสำนักงานเลขที่ 44 หมู่ที่ 6 ตำบลบางคูรัด อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี) มีหุ้นส่วน 3 รายคือ
1. นายยี พณิชยา อยู่บ้านเลขที่ 128/2 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 67 ถนนจรัญสนิมวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 8,000 หุ้น
2.นางสุเพ็ญ เอี่ยมอภิชาติ อยู่บ้านเลขที่ 123/48 หมู่ที่ 2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จำนวน 1,000 1,000 หุ้น
3.นายชลอ ต่ายชาวนา อยู่บ้านเลขที่ 77/242 หมู่ที่ 6 หมู่บ้านฟ้าปิยรมย์ เฟส 5 ถนนพหลโยธิน ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี (เลขที่เดียวกับที่ตั้งสำนักงาน)
นายยี เป็นผู้เริ่มก่อการ กรรมการผู้ขอจดทะเบียน
ทั้งสองแห่ง มี น.ส.ธัญญา พลเสน เป็น “ผู้รับมอบอำนาจ”จากนายยี ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการและกรรมการบริษัทฯ ในการยื่นจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วน และจัดตั้งบริษัท ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพฯ (ดูเอกสาร) น.ส.ธัญญา ยังมีชื่อเป็นพยานในการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท วายอีอี อีกด้วย
และยังพบว่า ในการจดทะเบียนเพิ่มทุน บริษัท วายอีอี จำกัด จาก 1 ล้านบาทเป็น 5 ล้านบาท เมื่อ 20 มี.ค.55 นายเกรียงไกร พลเสน เป็น “ผู้รับมอบอำนาจ”จากนายยี ในการยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพฯ
ขณะที่ จากการตรวจสอบพบว่า “ผู้รับมอบอำนาจ”ทั้ง 2 คน มีชื่อ เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท ที วี เอ็น เทคโนโยลี จำกัด ของ ญาติ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ในการยื่นจดทะเบียนเพิ่มทุน ของบริษัทดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ญาติ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย รายนี้ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท พี.อาร์.เอ็น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับ อดีต ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย และ น.ส.สุธาดา เรืองพูน ด้วย
และ บริษัท วายอีอี จำกัด ยังใช้โทรศัพท์หมายเลข 02-54300…ซึ่งเป็นเลขหมายเดียวกับ บริษัท พี.อาร์.เอ็น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน
ล่าสุด ในช่วงปลายเดือนธ.ค.2560 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า สำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มอบหมายให้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 แจ้งความดำเนินคดีกับ นายยี พาณิชยา ผจก.หจก. เอ็ม เอ ไอ เอ็นเตอร์ไพร์ส และผู้เกี่ยวข้อง กรณีการก่อสร้างสนามฟุตซอลของโรงเรียนตามโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลพร้อมอุปกรณ์ ในปีงบประมาณ 2555 ขณะที่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 ได้มอบอำนาจและแต่งตั้งตัวแทนช่วงให้ผู้อำนวยการโรงเรียนทั้ง 16 แห่ง ดำเนินคดีกับเอกชนรายนี้แล้ว (อ่านประกอบ : 'ยี-พวก' โดนแล้ว! สพฐ.สั่งผอ.เขตโคราช ดำเนินคดีสร้างสนามฟุตซอลร.ร.16แห่งรวด)
ส่วนผลการสอบสวนของป.ป.ช. ที่จะมีการเผยแพร่เป็นทางการ จะออกมาเป็นอย่างไรนั้น โปรดจับตามองแบบห้ามกระพริบตาโดยเด็ดขาด !
อย่างไรก็ตามคดีนี้ ยังอยู่ในชั้นการสอบสวนของป.ป.ช. ยังไม่ได้มีการส่งเรื่องให้ศาลพิจารณาตัดสินชี้ขาด ผู้เกี่ยวข้องทุกรายจึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ อยู่
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.แจ้งคำสั่งไต่สวน‘ไทยสปอร์ทฯ’ หนสองยังไม่รับ-เปิด 9 เอกชนพันคดีฟุตซอล
ป.ป.ช.เพิ่มชื่อลุยสอบ 7 เอกชนเครือญาติอดีต ส.ส.‘ปาริชาติ’พันคดีฟุตซอลฉาว
ไม่ใช่แค่ ส.ส.โคราช! ป.ป.ช.สอบเพิ่มกลุ่มเอกชนญาติ‘ปาริชาติ’พันคดีฟุตซอลฉาว
ป.ป.ช.ตีตก 1 สำนวนคดีสร้างสนามฟุตซอลฉาว จ.สุโขทัย ข้อกล่าวหาไม่มีมูล
ครบทุกสัญญา 159 ล.สร้างสนามฟุตซอล 3 จว.อีสาน-ก่อน ป.ป.ช.ลุยสอบ
เปิดทุกสัญญา 90 ล.เอกชนสร้างสนามฟุตซอลภาคเหนือก่อน ป.ป.ช.แจ้งข้อหา
เปิดอีก 3 สัญญาสร้างสนามฟุตซอลอำนาจเจริญ-มุกดาหาร-ป.ป.ช.ตั้งอนุฯสอบ
เปิดทุกสัญญา 90 ล.เอกชนสร้างสนามฟุตซอลภาคเหนือก่อน ป.ป.ช.แจ้งข้อหา
ครบทุกสัญญา 57 ล.! สร้างสนามฟุตซอลพะเยา-‘มหวัฒน์-เอ็มที’เหมายก จว.
ไม่ใช่แค่พะเยา! หจก.เอ็มทีฯคว้าอีก 4 สัญญาสร้างสนามฟุตซอลเชียงราย
เปิดชื่อ 30 ขรก.-เอกชนถูก ป.ป.ช.สอบคดีสนามฟุตซอล จ.พะเยา 'บิ๊กสพฐ.-18 ผอ.'
เปิดหมด 13 สัญญาสร้างสนามฟุตซอลพิษณุโลก-ป.ป.ช.ตั้งอนุฯลุยสอบ
เปิด 9 สัญญาสร้างสนามฟุตซอลโคราช บ.เก่า‘อดิศักดิ์’คว้างาน-ป.ป.ช.จ่อฟันอดีต ส.ส.
ไม่ใช่แค่น่าน! กก.บ.เก่าเครือ‘อดิศักดิ์’ถูก ป.ป.ช.สอบคดีฟุตซอลฉาวพิษณุโลกด้วย
เปิดชื่อผู้ถูกกล่าวหาคดีฟุตซอลฉาวพิษณุโลก-บ.เก่าอดีตที่ปรึกษา รมต.โดนอีก
เปิด 9 สัญญาสร้างสนามฟุตซอลโคราช บ.เก่า‘อดิศักดิ์’คว้างาน-ป.ป.ช.จ่อฟันอดีต ส.ส.
INFO:สรุปคดีสนามฟุตซอลฉาว 9 จว.-ป.ป.ช.สาวลึกเจอ'บิ๊กนักการเมือง'เอี่ยว
พฤติการณ์ชัด! ป.ป.ช.แจ้งข้อหาบิ๊กนักการเมืองพันคดีฟุตซอล มิ.ย.นี้
เช็คชื่อ! 49 บิ๊ก สพฐ.-ขรก.-เอกชนน่านพันคดีสนามฟุตซอลฉาว-ป.ป.ช.ลุยสอบ
บ.เก่าอดีตที่ปรึกษา รมต.ถูก ป.ป.ช.ตั้งอนุฯสอบปมสร้างสนามฟุตซอล จ.น่าน
ป.ป.ช.ตั้งอนุฯสอบเพิ่ม 5 จว.ปมสนามฟุตซอลฉาว ขรก.-ผอ.ร.ร.ติดโผอื้อ
อดีต ส.ส.-ขรก.นัดคุยร้านลาบ! ป.ป.ช. สาวลึก‘บิ๊กนักการเมือง’คดีสนามฟุตซอล
ป.ป.ช.เพิ่มชื่อลุยสอบ 7 เอกชนเครือญาติอดีต ส.ส.‘ปาริชาติ’พันคดีฟุตซอลฉาว
‘ผอ.เขตการศึกษา-3 เอกชน’ยังไม่รับคำสั่งอนุฯ ป.ป.ช.สอบสนามฟุตซอลพะเยา
เปิดชื่อ 30 ขรก.-เอกชนถูก ป.ป.ช.สอบคดีสนามฟุตซอล จ.พะเยา 'บิ๊กสพฐ.-18 ผอ.'
แพงเกินจริง-ใช้งานไม่ได้! สำนวน ป.ป.ช.มัดคดีสนามฟุตซอล จ.พะเยา
คดีฟุตซอลฉาวโยง 2 นักการเมืองระดับชาติ! ป.ป.ช.จ่อแจ้งข้อหานับร้อยราย
อนุฯ ป.ป.ช.ขีดเส้นสรุปปมก่อสร้างสนามฟุตซอลฉาวต้น ต.ค.นี้
ป.ป.ช.ลุยสอบ 12 ร.ร.จ.เชียงรายพันปมสร้างสนามฟุตซอล-วัสดุแพงผิดปกติ
อนุฯ ป.ป.ช.สรุปปมสร้างสนามฟุตซอลอีสานแล้ว-สาวลึก“บิ๊กนักการเมือง”
ผอ.ร.ร.มีหนาว!อนุฯป.ป.ช.จ่อแจ้งข้อหาร่วมร้อยคนปมสร้างสนามฟุตซอล
ป.ป.ช.ตั้งอนุฯลุยสอบสนามฟุตซอลฉาวกราวรูดทั่วประเทศ!-ข้อมูลใกล้ครบแล้ว
ป.ป.ช.ตั้งอนุฯร่วมสตง.สอบสนามฟุตซอลฉาว-จ่อกล่าวหาอดีตเลขาฯสพฐ.