กัดไม่ปล่อย! 'ศรีสุวรรณ'จับมือ'วีระ'แฉ'บิ๊กป้อม'มีนาฬิกานับร้อยเรือน
"ศรีสุวรรณ"จับมือ"วีระ" แฉ"บิ๊กป้อม"มีนาฬิกานับร้อยเรือน แต่ไม่แจ้งป.ป.ช. ด้าน"วีระ"ซัด"บิ๊กตู่"ดีแต่พูด ปราบคอร์รัปชันไม่จริงจัง
14 ม.ค.61 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวในงานเสวนาสรุปผลการตรวจสอบภาคประชาชน เรื่องการแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ ชาตินี้หรือชาติหน้า? จัดโดย คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ร่วมกับเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน ตอนหนึ่งว่า การตรวจสอบการทุจริตของตน เป็นการส่งสัญญาณไม่ให้ผู้มีอำนาจเพ้อหลง โดยตนได้ยื่นเรื่องตรวจสอบไปแล้วไม่ต่ำว่า 30 เรื่อง
แต่บทสรุปของทุกเรื่องอยู่ที่ "นาฬิกาบิ๊กป้อม" หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สามารถชี้แจงได้ ก็จะชี้ให้เห็นว่ารัฐบาล คสช.เข้ามาแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันได้ แต่วันนี้ยังไม่มีคำตอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ เลย และหากนาฬิกานี้ไปอยู่ในมือนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ตนว่าป่านนี้อาจจะเข้าซังเตไปแล้วก็ได้ แต่บังเอิญนาฬิกาทั้ง 22 เรือน ซึ่งมีคนกระซิบว่ามีเป็นร้อยเรือน ไม่ใช่แค่ 22 เรือน จึงเห็นว่าเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความจริงใจ แต่ไปกอดอกประกาศต่อต้านคอร์รัปชัน
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า ในส่วนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ตนยื่นเรื่องไปนั้น แม้จะไม่มีความหวัง แต่ก็เป็นการร้องหรือประจานให้ประชาชนรับรู้ว่า ผู้มีอำนาจไม่ให้ความสำคัญกับการทุจริตประพฤตมิชอบ ซึ่งข้อเสนอของตนที่ว่าควรจะสั่งหยุดงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เพื่อให้การตรวจสอบรวดเร็ว เหมือนอย่างกรณีผู้ว่าฯ กทม.หรือข้าราชการอื่น ที่ใช้มาตรา 44 ให้หยุดงาน หรือให้พ้นจากตำแหน่งไปก่อน
"ในส่วนการทำงานของ ป.ป.ช.โดยเฉพาะประธาน ป.ป.ช.ก็เคยเป็นรองเลขาธิการรองนายกฯ ฝ่ายการเมือง ก็เป็นที่น่าเคลือบแคลงสงสัย ซึ่งท้ายที่สุดก็นำไปสู่การเขียนกฎหมายเพื่อให้คุณสมบัติ ของ ป.ป.ช.ยังดำรงตำแหน่งอยู่ มีการต่ออายุจาก 7 ปี เป็น 9 ปี และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็ไม่ยอมยื่นตีความ ส่วนกรณีร้องไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ในเรื่องของการเหมาเครื่องบินเหมาลำไปที่ฮาวาย มีเมนูไข่ปลาคาเวียร์ ซึ่ง สตง.บอกว่าไม่ผิด อย่างนั้นทุกราชการถ้ามีการสั่งไข่ปลาคาเวียร์มาก็ไม่ผิดเลย ดังนั้น การต่อต้านคอร์รัปชันและเขียนรัฐธรรมฉบับปราบโกง ก็คือเขียนให้เด็กๆ เพ้อหลง แต่คนไทยไม่ได้กินแกลบ กินหญ้า การต่อต้านคอร์รัปชันจะจริงจังมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับนาฬิกาของบิ๊กป้อมเท่านั้น" นายศรีสุวรรณ กล่าว
ขณะที่ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) กล่าวถึงการทำงานขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะการทำงานของ ป.ป.ช.ในเรื่องเครื่องบินเหมาลำ เขาไม่ได้ให้ตรวจสอบว่ามีการเหมาเครื่องบินไปฮาวายหรือไม่ เขาให้ตรวจสอบว่าใครเป็นคนสั่งการ รวมถึงเรื่องนาฬิกาและแหวนของ พล.อ.ประวิตร เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันตาม เพราะไม่ไว้ใจ ป.ป.ช.เรื่องนี้ถือว่าท้าทายกฎหมายมาก ไม่ใช่แค่แหวนและนาฬิกาเท่านั้น ยังมีของมีค่าอย่างอื่นอีกที่ พล.อ.ประวิตร ต้องแสดงบัญชี ถ้าเรื่องนี้ ป.ป.ช.บอกว่าไม่ผิด กฎหมาย ป.ป.ช.มีปัญหาและบังคับใช้ไม่ได้แล้ว แต่จะมีการเอาไปเป็นตัวอย่าง ต่อไปจะไม่มีใครแจ้งบัญชีทรัพย์สิน เพราะแม้ไม่แจ้งบัญชีก็ไม่ผิด ทั้งที่กฎหมายบอกให้แจ้งก็ต้องปฏิบัติตาม หากไม่ปฏิบัติตาม ก็เป็นการจงใจปกปิด การที่ พล.อ.ประวิตร อ้างว่าเป็นเสรีภาพไม่เปิดเผยได้ อย่างนั้นถ้าจะใช้เสรีภาพนี้ ก็ไม่ต้องเข้าการเมือง ไม่ต้องร่วมรัฐบาล
"ดังนั้น อย่ามาอ้าง อ้างอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น ในเมื่อปกปิดก็ต้องปกปิดให้ถึงที่สุด มาใส่โชว์ทำไม เป็นการดูถูกประชาชน และท้าทายกฎหมาย เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ นอกจากจะไม่จัดการแล้ว ยังบอกว่าจะเอาอะไรกันหนักกันหนา ยอมๆ กันบ้างได้หรือไม่ ทั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ไปร่วมต่อต้านคอร์รัปชัน นี่แหละดีแต่พูดไม่ได้มีความจริงจังต่อการต่อต้านคอร์รัปชัน" นายวีระ กล่าว
นายวีระ กล่าวต่อว่า ที่น่าสนใจคือ นาฬิกาทั้ง 22 เรือน ของ พล.อ.ประวิตร ไม่เคยแจ้งต่อ ป.ป.ช.แม้แต่เรือนเดียว และ พล.อ.ประวิตร ไม่เคยใช้สิทธิโต้แย้งแม้แต่เรือนเดียว ส่วนเรื่องแหวนนั้น ตนเอาไปยื่น ป.ป.ช.อย่างต่ำ 10 วง ดังนั้น เรื่องนี้จะจบแบบลอยนวลไม่ได้ เพราหลักฐานชัดเจนมาก และไม่ต้องไปรอคำวินิจฉัยจาก ป.ป.ช.หรือขึ้นศาลที่ไหน เพราะประชาชนทั้งประเทศได้พิพากษาไปเรียบร้อยแล้ว เหลืออย่างเดียว พล.อ.ประวิตร จะรับผิดชอบอย่างไร หรือจะลาออก เรื่องก็ไม่จบ เพราะความผิดทางกฎหมายยังมีอยู่ รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบด้วย จะจัดการอย่างไร
"ที่น่าสังเกตคือ พล.อ.ประวิตร ไปแจ้งว่ามีรถยนต์ 1 คัน ราคา 1 แสนบาท ปกติรถราคาแพงกว่านี้ และคนอย่าง พล.อ.ประวิตร นั่งรถราคาแสนบาทใครจะเชื่อ เมื่อรวมกับแหวนและนาฬิกาแล้ว มูลค่ามากกว่าที่รับราชการมาตลอดชีวิต เพราะตลอดชีวิตหาก พล.อ.ประวิตร รับเงินเดือนโดยไม่ใช้อะไรเลย ทรัพย์สินไม่น่าจะมีเกิน 35 ล้านบาท แต่ทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.นั้น 87 ล้านบาท และนาฬิกาหรูที่เพิ่มขึ้นมาอีกมีมูลค่ารวม 30 กว่าล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ ดังนั้น ตอนนี้อยู่ที่ว่าองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญจะสรุปออกมาอย่างไร และภาคประชาชนจะกัดไม่ปล่อย" นายวีระ กล่าว