ธนาคารความดี: เปิดพื้นที่ทางสังคม 'เอื้อ' ให้คนทำดี
"ทำดีแล้วไม่ได้ดี" , "ทำดีแล้วได้อะไร" เราอาจไม่ต้องมานั่งถามกันอีกแล้ว เมื่อ "แกนนำ" ก่อการดีแห่งบ้านเมืองหลวง ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย ใช้ศรัทธาเป็นตัวนำ ร่วมกันคิดออกกุศโลบายเพื่อให้คนหันมาทำความดี แปลงสิ่งที่เป็นนามธรรม ให้ได้รับผลแห่งความดีที่จับต้องได้
"ธนาคารความดี" แห่งบ้านเมืองหลวง ต่อยอดมาจากศูนย์ 3 วัย ใฝ่คุณธรรม เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2553 โดยได้รับการสนับสนุนจากแผนเปิดรับทั่วไป สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ภาพ ธนาคารแห่งนี้แตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ที่เราเคยพบเห็นกันโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ตั้ง ได้รับความอนุเคราะห์จากวัดปิงเมืองหลวง ให้ก่อสร้างอาคารก่ออิฐโบกปูนชั้นเดียวติดประชิดริมรั้ววัด
เปิดทำการ ทุกวันเสาร์แรก และเสาร์ที่สามของเดือน ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น.
ที่นี่ไม่ได้ทำธุรกรรมรับฝากเงิน หรือปล่อยสินเชื่อใดๆ
ไม่มีตู้ ATM
มีแต่พนักงาน ซึ่งเป็นเด็ก เยาวชน ผู้มีจิตอาสาในละแวกนั้นนั่งหน้าแฉล้ม อยู่หน้าเคาน์เตอร์คอยบริการรับฝากความดี
ความน่าสนใจอยู่ที่ผลตอบแทน หรือดอกเบี้ย จากการทำความดีนั้น เมื่อทำความดีแล้ว เอาไปฝากไว้กับธนาคาร สะสมไว้ถึงจุดหนึ่งสามารถนำมาแลกเป็นสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันได้
...รางวัลใหญ่สุด เป็นพวกกระติกใบใหญ่ พัดลม โต๊ะรีดผ้า ผ้าห่ม เก้าอี้นั่ง ส่วนใครที่สะสมความดีไว้น้อย ก็แลกของเล็กๆ น้อยๆ เช่น ผงซักฟอก ยาสีฟัน กล่องใส่สบู่ และกระปุกออมสิน
"วาส ยศวิทยากุล" อดีตพนักงานธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ วันนี้เขาผันตัวเองมารับหน้าที่ ผู้จัดการธนาคารความดี บอกถึงขั้นตอนการสมัครเข้าร่วมโครงการว่า ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย สำหรับคนทำดีมือใหม่เพียงแค่กรอกใบสมัคร จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่วัยใส มอบ "สมุดพกความดี" เล่มสีเหลืองๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้าน
"การทำความดีก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่กรอกความดีที่ได้ทำลงไปในใบนำฝาก โดยขอให้มีผู้รับรองอย่างน้อย 3 คน จากนั้นเมื่อธนาคารเปิดทำการ สมาชิกก็ถือใบนำฝากและสมุดบัญชี มาฝากความดีเข้าธนาคาร" ผจก.ธนาคารความดี ชี้แจง พร้อมอธิบาย การเบิกถอน "ดอกเบี้ยความดี" เพื่อแลกกับข้าวของเครื่องใช้นั้น ธนาคารฯ ตั้งเงื่อนไข กำหนดให้มีคะแนนความดีติดก้นสมุดพกความดีไว้อย่างน้อย 100 คะแนน
ที่เหลือหรือเกินกว่านั้น จึงจะสามารถถอนความดีนำมาและสิ่งของได้
แล้วความดีอะไรบ้าง ทำแล้วเข้าเกณฑ์ ได้ผลตอบแทนสะสม
หมวดที่ 1 การมีส่วนร่วมและความสามัคคี เช่น ร่วมพัฒนาวัด หมู่บ้าน ร่วมงานส่วนรวมหมู่บ้าน งานบุญ งานปอย ขึ้นบ้านใหม่ ร่วมงานศพ หมวดที่ 2 การเสียสละ และจิตอาสา เช่น เสียสละแรงกาย แรงทรัพย์ จิตอาสา ไปเยี่ยมผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ แนะนำให้ความรู้ การช่วยเหลือ แบ่งปัน หมวดที่ 3 การปฏิบัติดี มีคุณธรรมและจริยธรรม เช่น วันสำคัญทางพุทธศาสนา วันพระ วัดนักขัตฤกษ์ร่วมฟื้นฟูภูมิปัญญา วัฒนธรรมชุมชน หมวดที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ เช่น กินอาหารปลอดสารเคมี กินข้าวกล้อง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หมวดที่ 5 การ ดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การตำข้าว โม่ข้าวกล้อง ทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ ประหยัด ออมเงินอย่างน้อยวัยละบาท
หมวด 1-5 ทำแล้วได้อย่างละ 10 คะแนน
แต่ที่พิเศษสุด อยู่ที่ หมวดที่ 6 ละเว้นการดื่มสุรา สูบบุหรี่ ยาเสพติด และอบายมุขทุกชนิด ทำดี ทำได้ จะได้ถึง100-500 คะแนนเลยทีเดียว
ยกตัวอย่าง เลิกเหล้า 3 เดือน ได้ 100 คะแนน ทำได้ตลอดชีพด้วยการปฏิญาณตน เอาไปเลย 500 คะแนน หรือจะเลือกมาวัด นอนวัด สวดมนต์ทุกวันพระตลอด 3 เดือน ก็ได้ 100 คะแนน เป็นต้น
กว่าเกณฑ์การทำความดีจะออกมาเป็นหมวดต่างๆ อย่างที่เห็นนั้น ผู้จัดการ ธ.ความดี บอกว่า ผ่านกระบวนการการขัดเกลาการทำความดีนับสิบนับร้อยข้อจากคณะกรรมการ จนย่นย่อเหลือแค่ 6 ข้อ
โดยภาพรวม ถึงวันนี้ ธนาคารความดี (สำนักงานใหญ่) ประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับจากคนในชุมชน ทุกเพศทุกวัย ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2554 มีสมาชิกแล้วกว่า 788 คน 25 หมู่บ้าน 1 โรงเรียน 4 ธนาคารสาขา สะสมความดีรวมกันได้มากกว่า 98,400 ความดี
มีสาขาแรก ตั้งอยู่ที่โรงเรียนบ้านศาลา
"ครูจำเรียง มีมานะ" ผู้จัดการธนาคารความดีสาขาที่ 1 เล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจากเข้าร่วมโครงการโรงเรียนวิถีพุทธ ทำเรื่องคุณธรรม จากนั้นได้มาเจอพ่อหนานพูลสวัสดิ์ ยศมูล ผู้ที่ต้นคิดทำศูนย์ 3 วัย คุยไปคุยมา เห็นว่า การทำงานตรงกันจึงคิดที่จะนำมาต่อยอด
"กิจกรรมธนาคารความดี ของโรงเรียนบ้านศาลาเน้นเรื่องจิตอาสา เด็กสามารถทำความดีไปพร้อมๆ กับการฝึกวินัย ความอดทน เริ่มตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา เด็กต้องเก็บที่นอน หมอนมุ้ง พับผ้าห่ม มาถึงการแต่งกายก็ต้องสะอาดเรียบร้อย และก่อนออกจากบ้านก็ให้ไหว้พ่อแม่ เป็นต้น"
แม้ว่า การทำความดีของเด็ก ร.ร.บ้านศาลา คะแนนสามารถนำมาแลกสิ่งของเครื่องใช้ได้เช่นเดียวกัน แต่ครูจำเรียง ก็ได้เน้นย้ำกับเด็กเสมอๆ ว่า
"เวลานักเรียนฝากความดี ไว้ในธนาคารความดี อย่าถอนนะลูก" ด้วยเธอรู้สึกว่า ทำความดีแล้ว ถอนความดีออกมาใช้ มันไม่ใช่
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า การไม่ถอนความดี แล้วจะไม่ได้รับผลแห่งการทำดีอะไรเลย ครูจำเรียง บอกว่า สิ่งที่นักเรียนได้รับ คือ เกียรติบัตรแผนที่คนดี ซึ่งเป็นการโหวตคนทำความดีที่โดดเด่นที่สุด ในสายตาครูประจำชั้น และเพื่อนๆ ในห้องเรียน กำหนดแจกกันในวันประชุมผู้ปกครอง หลังจบภาคเรียนแล้ว
ซึ่งเกียรติบัตรนี้ นำมาซึ่งความภาคภูมิใจให้แก่คนในครอบครัวเหนือสิ่งอื่นใด
"ธนาคารความดี เป็นนวัตกรรมทางความคิด เป็นสิ่งดีงามและสวยงาม เป็นการเอาทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตมาบูรณาการไว้เป็นหนึ่งเดียว และเป็นพลังที่สร้างชุมชน" อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการด้านสาธารณสุข เปิดมุมมองหลังร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการทำงานของโครงการธนาคารความดี ที่วัดปิงเมืองหลวง
และเห็นว่า จุดเด่นกุศโลบาย ชวนคนให้ทำความดีนั้น มี 4 ประการ 1.ธนาคารความดีมีกระบวนการที่ไม่ยุ่งยาก โดนใจ และโดนใจวัยรุ่นด้วย 2.มีแรงจูงใจ ที่นอกเหนือจากกระติก พัดลม แต่คือใบประกาศความดี ซึ่งมีคุณค่าทางด้านจิตใจ 3.สร้างสิ่งแวดล้อมที่ "เอื้อ" ให้คนทำความดี และ4.เป็นการสร้างการมีส่วนร่วม ทำให้เกิดพลัง
ตัวอย่างกิจกรรมบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ความดี ที่น่าชื่นชมนี้ ไม่สงวนสิทธิ์หากมีการขยายต่อยอดไปยังที่อื่นๆ แต่สิ่งที่อ.สง่า ฝากไว้ให้คิดต่อ จะทำอย่างไรให้รูปแบบ และวิธีการที่ทำอยู่นี้ ยั่งยืนต่อไปได้ในอนาคต...