แคนาดาฟ้องดับเบิลยูทีโอ โดนสหรัฐกีดกันการค้า
รัฐบาลแคนาดายื่นเรื่องร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก ว่ารัฐบาลสหรัฐละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศ "หลายสิบข้อ" ด้านรัฐบาลวอชิงตันปฏิเสธเสียงแข็ง และเตือนว่า "ประเทศที่สาม" จะได้เปรียบจากความขัดแย้งครั้งนี้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ว่า นายโรเบิร์ต ไลธิเซอร์ หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาการค้าของรัฐบาลวอชิงตัน กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับการที่แคนาดาร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก ( ดับเบิลยูทีโอ ) ว่าสหรัฐละเมิดกฎหมายการค้าระหว่างประเทศ "หลายสิบข้อ" เป็นการดำเนินการที่ขาดวิจารณญาณต่อระบบการปฏิรูปการค้าของสหรัฐ และข้อกล่าวหาทั้งหมด "ไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง" อีกทั้งต่อให้รัฐบาลออตตาวาเป็นฝ่ายชนะการร้องเรียนครั้งนี้ ฝ่ายที่จะได้ประโยชน์มากกว่าคือประเทศอื่นที่เหลือ แต่ไม่ใช่แคนาดา
ทั้งนี้ กระทรวงการค้าระหว่างประเทศของแคนาดายื่นเอกสารคำร้องความยาว 32 หน้าต่อสำนักงานใหญ่ของดับเบิลยูทีโอ ในนครเจนีวา ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. ปีที่แล้ว แต่เพิ่งมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ กล่าวหารับบาลวอชิงตันใช้นโยบายกีดกันการค้าต่อแคนาดา ด้วยการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน "อย่างไม่เป็นธรรม" ที่ล่าสุดคือการที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขึ้นภาษีกระดาษสำหรับหนังสือพิมพ์และหนังสือทั่วไปอีก 10% ขณะที่เมื่อกลางปีที่แล้วสหรัฐขึ้นภาษีไม้เนื้ออ่อนแปรรูปจากแคนาดาอีก 20% และขึ้นภาษีนำเข้าอากาศยานที่ผลิตโดยบริษัทบอมบาเดียร์ของแคนาดาในอัตรา 292%
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการยื่นเรื่องในลักษณะนี้เกิดขึ้น ดับเบิลยูทีโอกำหนกให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเจรจากันเองก่อน และหากไม่สามารถประนีประนอมกันเองได้ภายใน 60 วัน ดับเบิลยูทีโอจะจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเฉพาะกิจเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งต่อไป