ทรัมป์จวกเละระบบศาลสหรัฐ หลังโดนขวางขับ "ดรีมเมอร์ส
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความไม่พอใจอย่างหนัก ต่อการที่ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐระงับคำสั่งยกเลิกโครงการคุ้มครองผู้อพยพซึ่งอยู่ในประเทศตั้งแต่เด็ก หรือ "ดรีมเมอร์ส"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อวันพุธ ว่าระบบศาลยุติธรรมของสหรัฐ "เหลวแหลกและไม่ยุติธรรม" มากแค่ไหน จากการที่ "ฝ่ายตรงข้าม" ทำหน้าที่ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางภาค 9 และมีคำตัดสินสวนทางตลอดเวลา ก่อนที่ศาลชั้นสูงกว่าจะกลับคำพิพากษาในเวลาต่อมา
ขณะที่ในวันเดียวกัน ผู้นำสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าว เรียกร้องแกนนำพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต "แสดงความประนีประนอม" เกี่ยวกับชะตากรรมของผู้อพยพที่อยู่ภายใต้โครงการ "ดาก้า" ( DACA ) ที่เป็นการคุ้มครองเด็กและเยาวชนซึ่งเดินทางเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมายระหว่างช่วงอายุ 6-16 ปี ด้วยการให้โอกาสศึกษาเล่าเรียน ได้รับสวัสดิการและมีสิทธิ์หางานทำในสหรัฐได้ ซึ่งโครงการดังกล่าวจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2555 ในสมัยของประธานาธิบดีบารัค โอบามา
ท่าทีดังกล่าวของทรัมป์คือการแสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินของผู้พิพากษาวิลเลียม อัลซัป แห่งศาลชั้นต้นรัฐบาลกลางภาค 9 เขตซานฟรานซิสโก ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ให้ระงับคำสั่งของรัฐบาลวอชิงตันในการยกเลิกโครงการดาก้าไว้ก่อน จนกว่ากระบวนการต่อสู้ทางกฎหมายตามศาลอีกหลายแห่งในอีกหลายรัฐจะเสร็จสิ้น ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐประกาศเมื่อเดือนก.ย. ปีที่แล้ว ว่าโครงการดาก้าเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายที่เกินขอบเขตของรัฐบาลโอบามา และรัฐบาลทรัมป์จะจัดทำ "มาตรการจัดระเบียบใหม่ตามกรอบของกฎหมาย" ขึ้นมาแทนที่
ด้านนายเจฟฟ์ เซสชันส์ รมว.กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ กล่าวถึงคำพิพากษาของผู้พิพากษาอัลซัปเพียงว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังศึกษารายละเอียดเพื่อนำไปสู่การดำเนินการขั้นต่อไป ที่มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะเป็นการยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดในกรุงวอชิงตัน และอาจประสบความสำเร็จด้วย เนื่องจากคณะตุลาการศาลฎีกาสหรัฐมีคำพิพากษาเมื่อเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา ให้รัฐบาลกลางเป็นฝ่ายชนะคดีที่ผู้พิพากษาอัลซัปต้องการให้กระทรวงยุติธรรมเผยเอกสารเกี่ยวกับการยกเลิกโครงการดาก้า ที่จะส่งผลต่อ "ดรีมเมอร์ส" หรือผู้อพยพซึ่งอยู่ภายใต้ความคุ้มครองนี้ราว 800,000 คน.