ตกเขียวชาวนา 4.5 ล้านคน สั่ง ธกส.ยกระดับอุ้มเกษตรกรตะลุยแจกบัตรเครดิต
คลังปิ๊งไอเดียปรับบัตรสินเชื่อให้เป็นบัตรเครดิตเกษตรกร เพิ่มช่องทางใช้บัตรรูดซื้อสินค้าร้านสะดวกซื้อ
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลังเปิดเผยว่า มีแนวคิดเรื่องการพัฒนารูปแบบบัตรสินเชื่อเกษตรกรให้สามารถรูดซื้อสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคได้จากร้านค้าคอนวีเนียนสโตร์ ซึ่งเป็นร้านค้าสะดวกซื้อ เช่นเซเว่น อีเลฟเว่นและแฟมิลีมาร์ทเพื่อเป็นการเพิ่มกำลังซื้อได้มากขึ้นจากปัจจุบันที่กำหนดให้ใช้ซื้อสินค้าได้เฉพาะปัจจัยการผลิตทางการเกษตร คือ ค่าเมล็ดพันธุ์ข้าว ค่าปุ๋ยและค่ายาปราบศัตรูพืชที่เกษตรกรซื้อจากสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)และร้านค้าเครือข่าย 3,000 ร้านค้าเท่านั้น
นายทนุศักดิ์ เห็นว่า ธ.ก.ส.ควรประสานความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยในการพัฒนาระบบชำระเงินให้ธ.ก.ส. เพื่อสร้างทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น
"ในเมื่อรัฐบาลมีนโยบายรับจำนำข้าวแสดงว่าเกษตรกรมีรายได้มั่นคงแล้ว ดังนั้นบัตรสินเชื่อนี้น่าจะเป็นบัตรเครดิตที่มีอิทธิฤทธิ์มากกว่าซื้อปุ๋ย ซึ่งน่าจะใช้ไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างอื่นได้" นายทนุศักดิ์ กล่าว
นายทนุศักดิ์ ยืนยันว่า จะเสนอตัวกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะเป็น สส.ที่มาจากชาวบ้าน จึงอยากให้ชาวบ้านมีเครื่องมือทางการเงิน
แหล่งข่าวจาก ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ตั้งเป้าหมายแจกบัตรสินเชื่อเกษตรกร2 ล้านใบ ภายในเดือน พ.ค. 2555 พร้อมกันนี้ยังมีแนวคิดขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เข้าโครงการนี้ออกไปยังกลุ่มชาวสวน ชาวไร่ ชาวประมงซึ่งปัจจุบัน ธ.ก.ส.มีฐานลูกค้าที่เกษตรกรทุกกลุ่มรวม 4.5 ล้านรายและจะต่อยอดบัตรสินเชื่อเกษตรกรเป็นบัตรเครดิต เพื่อให้เกษตรกรใช้ในการรูดซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นได้นอกเหนือจากปัจจัยการผลิตได้มากขึ้นปัจจุบัน ธ.ก.ส.ได้ว่าจ้างบริษัทวี-สมาร์ท ให้เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งระบบการให้บริการและจัดหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้แก่ร้านค้าเป็นระยะเวลา 3 ปี ในวงเงิน 177 ล้านบาท เริ่มส่งมอบบัตรสินเชื่อเกษตรกร 5,000 ใบ นำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงใหม่ อุดรธานีพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และสระบุรี
เงื่อนไขการให้บริการบัตรสินเชื่อเกษตรกรในปัจจุบันกำหนดให้เกษตรกรที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการบัตรสินเชื่อต้องเป็นเกษตรกรลูกค้าธ.ก.ส.ที่ไม่มีหนี้ค้างชำระและไม่เป็นลูกค้าตามโครงการพักชำระหนี้มีอาชีพทำนาข้าวมีผลผลิตข้าวส่วนเหลือเพื่อขายและต้องนำผลผลิตข้าวมาจำนำตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลส่วนเงินสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตของเกษตรนั้น ธ.ก.ส.ได้กำหนดไว้ไม่เกิน 70% ของผลผลิตส่วนเหลือเพื่อขายแต่บัตรสินเชื่อเกษตรกร ธ.ก.ส.จะกำหนดวงเงินตามความจำเป็นและเหมาะสมในการผลิตข้าวของเกษตรกรแต่ละราย