ใช้แคตตาล็อกบ.ญาติส.ส.เพื่อไทยชิงงาน! หลักฐานชุด2มัดจัดซื้ออุปกรณ์เรียนอบจ.ชัยภูมิ
"...ยังมีข้อมูลหลักฐานสำคัญอีกชุด ที่ยังไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ นั้นคือ การตรวจสอบพบว่า บริษัทเอกชนที่เข้าแข่งงานต่างใช้แบบแคตตาล็อกซอฟแวร์ ของ บริษัทที่อาจเข้าข่ายเลิกประกอบกิจการแล้วมายื่นเสนอต่อ อบจ.ชัยภูมิด้วย ขณะที่บริษัทเอกชนรายนี้ เป็นบริษัทเครือญาติของนักการเมืองพรรคเพื่อไทยด้วย..."
ในรายงานผลการตรวจสอบงานจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์การเรียน ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชัยภูมิ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นำส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับไปไต่สวนอยู่ในขณะนี้ นอกเหนือจากการตรวจสอบพบความเชื่อมโยงของ บริษัท เค แอนด์ เอ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ที่ปรากฎชื่อเป็นผู้รับว่าจ้างหลายสัญญา กับผู้บริหารระดับสูงใน อบจ.ชัยภูมิ ตามข้อมูลที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ ( อ่านประกอบ : บิ๊กเทศบาลฯโผล่รับเงินแทน!หลักฐานใหม่สตง.มัดจัดซื้ออุปกรณ์เรียนอบจ.ชัยภูมิ-ชงป.ป.ช.สอบ, ที่แท้ปธ.สภาฯต.จัตุรัส ชื่อโผล่รับเงินอบจ.ชัยภูมิ-เจ้าตัวแจงแค่หาคนช่วยซื้อซองแข่งงาน, ย้อนรอยบ.ทีวีเอ็นฯ ตัวเชื่อมคดีจัดซื้ออุปกรณ์เรียน อบจ.ชัยภูมิ-เบ็ดเสร็จกวาดฟุตซอล สพฐ.47ล.)
ยังมีข้อมูลหลักฐานสำคัญอีกชุด ที่ยังไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ นั้นคือ การตรวจสอบพบว่า บริษัทเอกชนที่เข้าแข่งงานต่างใช้แบบแคตตาล็อกซอฟแวร์ ของ บริษัทที่อาจเข้าข่ายเลิกประกอบกิจการแล้วมายื่นเสนอต่อ อบจ.ชัยภูมิด้วย ขณะที่บริษัทเอกชนรายนี้ เป็นบริษัทเครือญาติของนักการเมืองพรรคเพื่อไทยด้วย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากในรายการผลตรวจสอบการจัดซื้ออุปกรณ์การเรียน ของ สตง. ที่ส่งเรื่องให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับไปสอบสวนต่ออยู่ในขณะนี้ มีการระบุข้อมูลว่า ในช่วงปี 2557 บริษัท เค แอนด์ เอ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาขายอุปกรณ์การเรียนให้กับ อบจ.ชัยภูมิ จำนวน 2 สัญญา คือ
1. สัญญาซื้อขาย เลขที่ 217/2557 ลงวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 จัดซื้อสื่อการเรียนรู้ชุดพัฒนาทักษะภาษาเกี่ยวกับประเทศ สมาชิกอาเซียน วงเงิน 17,320,000 บาท
2. สัญญาซื้อขาย เลขที่ 277/2557 ลงวันที่ 18 กันยายน 2557 การจัดซื้อครุภัณฑ์การศึกษา ห้องเรียน 3 มิติวงเงินตามสัญญา 8,917,600.00 บาท
(เป็น 2 ใน 7 สัญญา ที่บริษัท เค แอนด์ เอ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ได้รับงานโครงการจัดซื้ออุปกรณ์การเรียน 7 สัญญา รวมวงเงิน 79,009,650 บาท จากอบจ.ชัยภูมิ ตามข้อมูลที่สำนักข่าวอิศรา นำเสนอไปแล้ว อ่านประกอบ : ปิดสำนวนสอบ'อิศรา'!คดีจัดซื้ออุปกรณ์เรียน อบจ.ชัยภูมิ 100ล. สตง. ส่งเรื่องถึง ป.ป.ช.แล้ว)
สตง. ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการจัดซื้อโปรแกรมเนื้อหาบทเรียนเป็นภาพ 3 มิติ 100 เรื่อง ของโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์การศึกษาห้องเรียน 3 มิติ ซึ่งมีผู้เสนอราคา คือ บริษัท ฮิวเเม็น ไซแอนซ์ จำกัด บริษัท เอ พี เอ็ดดูเคชั่น จำกัดและบริษัทเค แอนด์ เอ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด
พบว่าต่างยื่นแคตตาล็อกซอฟแวร์คลังทฤษฎีความรู้วิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษา ยี่ห้อ Eureka.in จาก Designmate(I) Pvt.Ltd สื่อการเรียนการสอน 3 มิติ โดยมีหนังสือแต่งตั้งเป็นผู้แทนจำหน่ายจาก บริษัท อี-เทคนิค จำกัด ลงนามโดย S.S. Kumar ตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ
แต่จากการสืบค้นข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าข้อมูลว่า บริษท อี-เทคนิค จำกัด ไม่ปรากฏข้อมูลการยี่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในงวดปี 2555-2558 ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการเลิกประกอบกิจการ ทำให้การกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของครุภัณฑ์การศึกษาห้องเรียน 3 มิติ อาจเป็นการกำหนดเฉพาะเจาะจงรูปแบบเข้าข่ายเป็นการกำหนดที่กีดกันผู้ขายรายอื่น และไม่มีการแข่งขันราคากันอย่างเป็นธรรม
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท อี-เทคนิค จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 16 มี.ค.2553 ทุนปัจจุบัน 4 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 24 อาคารไพรม์ ชั้น 15 ห้อง ซี ถนนสุขุมวิท 21(อโศกมนตรี) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจผลิตคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์
ปรากฎชื่อ นาย นิเวศ พันธ์เจริญวรกุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ น.ส. วิวรรณ กรรณสูต และ นาย ซานโตก ซิงห์ กุมาร (ชื่อคล้าย S.S. Kumar)
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 28 มิ.ย.2554 บริษัท ไบท์ สตาร์ (เอเชีย แปซิฟิค) ลิมิเต็ด สัญชาติฮ่องกงถือหุ้นใหญ่สุด 42.5% เท่ากับ วังน้อย มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ส่วนนางสาว วิวรรณ กรรณสูต ถืออยู่ 15%
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจล่าสุด ณ 31 ธันวาคม 2554 แจ้งว่า มีรายได้รวม 464.69 บาท รวมรายจ่าย 1,994,710.83 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,994,246.14 บาท
นายนิเวศ พันธ์เจริญวรกุล เป็นอดีต ส.ว.พระนครศรีอยุธยา เครือญาตินายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.พระนครศรีอยุธยา
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 8 ม.ค.2560 ได้ติดต่อไปยัง บริษัท อี-เทคนิค จำกัด ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ หมายเลข 081-890-56XX
นาย ซานโตก ซิงห์ กุมาร รับสาย พร้อมยืนยันว่า ปัจจุบันบริษัท ยังประกอบธุรกิจอยู่
เมื่อถามว่า ทำไมถึงไม่ส่งงบการเงินช่วงปี 2555 จนถึงปัจจุบัน นาย ซานโตก ซิงห์ กุมาร ยืนยันว่า ส่งไปหมดแล้ว
พร้อมระบุว่า จะให้บุคคลที่รู้เรื่องติดต่อกลับมาชี้แจงสำนักข่าวอิศรา อีกครั้ง