10 ปี “เกษตรสันติราษฎร์” โมเดลต้นแบบเพิ่มรายได้ “ตำรวจ” ชั้นผู้น้อย
10 ปี “เกษตรสันติราษฎร์” อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี สุดยอดโมเดลต้นแบบเพิ่มรายได้ “ตำรวจ” ชั้นผู้น้อย ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมเป็นเจ้าของธุรกิจ 3 เกษตร ปลูกผัก-เลี้ยงกบ-เลี้ยงสุกร เตรียมขยายอีก 10 โรงพัก ทั่วประเทศ
พื้นที่ 230 ไร่ ใน ต.นาวังหิน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี จากที่เคยมีสภาพดินแห้งแล้ง เต็มไปด้วยต้นยูคาลิปตัส มาในวันนี้ได้ถูกพลิกฟื้นให้กลายเป็น “โครงการเกษตรสันติราษฎร์” ให้แก่ข้าราชการตำรวจ 31 นาย ของสถานีตำรวจภูธรเกาะจันทร์ จ.ชลบุรี เพื่อช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของตำรวจชั้นผู้น้อยตามแนวคิดของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพีกรุ๊ป)
โดยโครงการดังกล่าวจัดตั้งขึ้นภายใต้ความร่วมมือของซีพี กรุ๊ป สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ็มบี และสถานีตำรวจภูธรเกาะจันทร์ จ.ชลบุรี จวบจนถึงวันนี้เป็นเวลา 10 ปี ที่ดำเนินโครงการจนประสบความสำเร็จ จึงได้มีการจัดงาน “10 ปี หมู่บ้านเกษตรสันติราษฎร์” และ “พิธีมอบกรรมสิทธิ์บ้านพร้อมที่ดินให้แก่ข้าราชการตำรวจ” ณ หมู่บ้านเกษตรสันติราษฎร์
ทั้งนี้ ภายในงานมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายชายชาญ เอี่ยมเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพี กรุ๊ป นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส ซีพี กรุ๊ป และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานจำนวนมาก
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส ซีพี กรุ๊ป -พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส ซีพี กรุ๊ป กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของโครงการเกษตรสันติราษฎร์ เนื่องจากเห็นสภาพปัญหาของตำรวจชั้นผู้น้อยที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในชีวิตเกี่ยวกับความเป็นอยู่ หลายคนมีเงินเดือนไม่เพียงพอ ไม่มีโอกาสสร้างบ้านเป็นของตนเอง ตลอดชีวิตการทำงานอยู่อาศัยในบ้านพักข้าราชการ ทำให้เมื่อพ้นวัยเกษียณต้องมีบั้นปลายชีวิตที่ลำบาก
“ผมจึงคิดว่า น่าจะดำเนินโครงการหมู่บ้านเกษตรสันติราษฎร์เป็นตัวอย่าง เพื่อให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่รับรู้ว่า ตำรวจชั้นผู้น้อยลำบากเมื่อพ้นวัยเกษียณ” ประธานอาวุโส ซีพี กรุ๊ป กล่าว
พิธีมอบกรรมสิทธิ์บ้านพร้อมที่ดินให้แก่ข้าราชการตำรวจ
31 นายตำรวจ “ปลดหนี้” 56.3 ล. ได้บ้านพร้อมที่ดิน
นายสาโรจน์ เจียระคงมั่น รองกรรมการผู้จัดการ ซีพี กรุ๊ป เป็นอีกบุคคลสำคัญที่มีส่วนนำพาให้โครงการฯ ประสบความสำเร็จ เพราะได้มีโอกาสเข้ามาดูแลตั้งแต่ปี 2549 ที่เริ่มต้นขึ้น
เขาระบุ “หมู่บ้านเกษตรสันติราษฎร์” จัดตั้งขึ้นตามโครงการฯ บนพื้นที่ 230 ไร่ แบ่งเป็นสองส่วน คือ ส่วนพักอาศัย 50 ไร่ โดยจัดสรรให้ครอบครัวละ 1.5 ไร่ (600 ตารางวา) พร้อมบ้านพัก 2 ชั้น ขนาด 8 X 12 เมตร จำนวน 1 หลัง และโรงเรือนเลี้ยงไก่พื้นเมือง ขนาด 4x6 จำนวน 1 หลัง
ส่วนอีก 180 ไร่ จะถูกจัดสรรในการทำ 3 ธุรกิจ ภายใต้บริษัท เกษตรสันติราษฏร์ จำกัด ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ส่วนกลาง บริหารจัดการร่วมกัน คือ ที่ดินพร้อมโรงเรือนปลูกผัก ขนาด 9.2x84 เมตร จำนวน 56 หลัง 95 ไร่ ที่ดินพร้อมบ่อเลี้ยงกบ ขนาด 4x5 เมตร จำนวน 168 บ่อ 13 ไร่ และที่ดินเพื่อเลี้ยงสุกรขุน สายพันธุ์ ซีพี คูโรบูตะ แบบโรงเรือนปิด 65 ไร่
“ตำรวจทุกนายที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทุนกู้เงิน โดยมีวงเงินรวม 56.3 ล้านบาท เพื่อนำมาจัดซื้อที่ดิน และผ่อนชำระเดือนละ 6 แสนบาท โดยเงินชำระมาจากผลผลิตที่ได้รับของบริษัท เกษตรสันติราษฏร์ จำกัด และการเลี้ยงไก่พื้นเมือง ครอบครัวละ 10 ตัว รายได้เดือนละ 3,000 บาท”
รองกรรมการผู้จัดการ ซีพี กรุ๊ป ระบุต่อว่า ปัจจุบันตำรวจทุกนายชำระหนี้หมดตามกำหนด 10 ปีแล้ว
หลังจากนี้ไป รายได้เสริมที่มาจากผลผลิตของบริษัท เกษตรสันติราษฎร์ จำกัด จะเป็นของตนเอง โดยมีซีพี กรุ๊ป เป็นผู้สนับสนุนและดูแล และตำรวจเป็นนายทุนเช่นเดิม เพราะภาระการผ่อนชำระหนี้กับธนาคารจบลงแล้ว
“กะเพรา” ครบวงจร สร้างรายได้ 2 หมื่น/เดือน
ทั้งนี้ “กะเพรา” เป็นผลผลิตตัวชูโรงของบริษัท เกษตรสันติราษฎร์ จำกัด
นายสาโรจน์ ชี้ว่า เป็นแหล่งผลิตกะเพราครบวงจรมากที่สุดของประเทศไทย โดยจะส่งไปยังเซเว่น อีเลฟเว่น ผลิตอาหาร และด้วยความต้องการของตลาดที่มาก ทำให้มีผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงต้องส่งเสริมเกษตรกรรอบโครงการฯ อีก 73 ราย ใช้พื้นที่รายละ 1 ไร่ ปลูกต้นกะเพรา เกษตรกรเก็บได้วันละ 10 กิโลกรัม ขายได้กิโลกรัมละ 70 บาท เท่ากับจะมีรายได้วันละ 700 บาท หรือเดือนละ 21,000 บาท
ต้นกะเพรา
“ซีพีรับซื้อกะเพราจากเกษตรกรทุกคนและบริษัท เกษตรสันติราษฎร์ จำกัด อาทิตย์ละ 6 ตันใบ เท่ากับคนในพื้นที่จะมีรายได้รวมเดือนละ 720,000 บาท” รองกรรมการผู้จัดการ ซีพี กรุ๊ป อธิบาย และยังย้ำว่า กะเพราที่ปลูกขึ้นได้รับการวิจัยพัฒนาสายพันธุ์จากม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ผลิตสายพันธุ์ 059 ซึ่งมีลักษณะใบขนาดกลาง ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ที่สำคัญ มีกลิ่นหอม เหมาะแก่การนำไปปรุงอาหาร
ด.ต.สุทธิธนินท์ ลำบัติ เเละภรรยา
ผมเป็นคนที่โชคดี...อะไรจะเท่ามีบ้าน-ที่ดิน
ด.ต.สุทธิธนินท์ ลำบัติ วัย 47 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 159/17 หมู่บ้านเกษตรสันติราษฎร์ ปัจจุบันพักอาศัยอยู่กับภรรยา และบุตรสาว รวม 3 คน บอกเล่าให้ฟังว่า คริบครัวเขาตั้งเป้าหมายในชีวิตอายุ 40 ปี จะต้องมีบ้าน มีที่ดิน มีรถยนต์ และมีครอบครัวที่อบอุ่น ซึ่งในระหว่างประจำการอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประมาณปี พ.ศ.2547 ได้ทราบข่าวเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งที่สถานีตำรวจภูธรเกาะจันทร์ จ.ชลบุรี ว่าจะมีโครงการเกษตรสันติราษฎร์ จัดสรรที่ดินให้แก่ข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย จึงตัดสินใจขอย้ายมาประจำการที่นี่ เพื่อหวังจะมีที่อยู่อาศัยและรายได้เสริมจากอาชีพเกษตรกรม ซ
"การตัดสินใจในครั้งนั้นทำให้ความฝันเป็นจริง และมีชีวิตที่ดีขึ้น และรู้สึกซาบซึ้งใจมาก (เสียงสั่นเครือ) จนไม่สามารถบรรยายออกมาได้"
บ้านที่ได้รับการต่อเติมของ ด.ต.สุทธิธนินท์ ลำบัติ
โรงเรือนเลี้ยงไก่พื้นเมือง
“ครบ 10 ปีตามสัญญาแล้ว จึงไม่ได้เลี้ยงไก่พันธุ์พื้นเมืองต่อ นอกจากปลูกพืชผักสวนครัว แต่กำลังคิดว่า อนาคตจะหาอะไรมาทำเพิ่มในที่ดิน 1.5 ไร่ ที่ได้รับมอบโฉนดมา และหากถามความรู้สึก ตอบได้ว่า ผมเป็น 1 ใน 31 นายตำรวจที่โชคดีมาก อะไรจะเท่ากับมีบ้านและที่ดินเป็นของตนเอง” ด.ต.สุทธิธนินท์ ระบุ
“เกษตรสันติราษฎร์” จึงนับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน และในอนาคตอันใกล้ ซีพี กรุ๊ป เตรียมต่อยอดโมเดลความสำเร็จนี้ไปถึงสถานีตำรวจภูธรอีก 10 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อสุดท้ายแล้ว ตำรวจชั้นผู้น้อยจะมีรายได้เสริม มีบ้าน มีที่ดิน ใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างมีความสุข .