'บิ๊กป๊อก' ย้ำเลือกตั้งท้องถิ่น กำหนดคุณสมบัติ อปท.เข้ม เทียบเท่า ส.ส.
‘บิ๊กป๊อก’ เผย มท.ชงกำหนดคุณสมบัติ อปท.เข้ม สอดคล้อง รธน.60 ให้กฤษฎีกานำเข้า ครม.แล้ว ยันเลือกตั้งท้องถิ่นทำก่อนระดับชาติ ขณะที่อธิบดี สถ.คาดเริ่มเลือก อบจ.เดือน พ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2561 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำกฎหมายท้องถิ่น เพื่อเดินหน้าการเลือกตั้งท้องถิ่นว่า ในเรื่องนี้ทางกระทรวงมหาดไทย ได้เสนอเรื่องคุณสมบัติของผู้บริหารท้องถิ่น ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 60 ซึ่งขณะนี้ได้เสนอความคิดเห็นไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว โดยกฤษฎีกาจะเป็นผู้นำเสนอกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นเข้าสู่ที่ประชุม ครม. และถ้ากฎหมายในส่วนนี้ผ่าน สนช.เรียบร้อยก็จะนำไปสู่การเลือกตั้งท้องถิ่น ส่วนจะเลือกตั้งเมื่อใดนั้น คสช.จะเป็นผู้กำหนด แต่ยืนยันว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดก่อนการเลือกตั้งระดับประเทศ เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการเสนอกฎหมายครั้งนี้ ได้ปรับคุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่น ให้มีความเข้มข้นมากกว่าเก่า ซึ่งในบางส่วนคุณสมบัติก็จะเทียบเท่ากับ ส.ส. สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบผู้บริหารท้องถิ่นที่ถูกคำสั่ง คสช.ระงับการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมานั้น การดำเนินการทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงและสอบสวนในเรื่องวินัย และเมื่อมีกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นออกมา ถ้าคุณสมบัติไม่ขัดก็สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ แต่ถ้าคุณสมบัติขัดกฎหมายก็ลงรับสมัครเลือกตั้งไม่ได้ ซึ่งมีการรายงานความคืบหน้าของผู้ที่ถูกคำสั่ง คสช.มายังกระทรวงมหาดไทยบ้างแล้ว ทั้งที่สอบสวนเสร็จ และที่สอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ และส่วนที่ขอขยายเวลาก็มีทุกส่วน ซึ่งใครที่ถูกให้พักราชการหรือให้พ้นหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า เดือน พ.ค.นี้สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะหมดวาระครบทุกระดับทั่วประเทศ หากต้องจัดการเลือกตั้งใหม่พร้อมกันทั้งหมดอาจทำให้เกิดความยุ่งยาก ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเสนอว่า ควรเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ก่อน จากนั้นค่อยเลือกตั้ง เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และเมืองพัทยา เพื่อให้เกิดความสะดวกในการบริหารจัดการ ส่วนจะเลือกตั้งเมื่อไหร่คงต้องรอให้ร่างกฎหมายดำเนินการแล้วเสร็จ รวมถึงต้องรอคำสั่งจาก คสช. ด้วย แต่หากมองตามโรดแม็ป การเลือกตั้งท้องถิ่นน่าจะอยู่ช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.-ก.ค. 2561
เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้ท้องถิ่นปราศจากข้อครหาว่าเป็นมือเป็นไม้ให้พรรคการเมือง นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เครื่องมือของการเมือง แต่เป็นธรรมดาของการเมืองที่ต้องมีพวก กลุ่มเดียวกันต้องเชียร์กัน อาจถูกมองว่าเป็นหัวคะแนนบ้างถ้าทำในนามส่วนตัวก็สามารถทำได้ เพราะความเป็นพวกคงออกจากการเมืองไม่ได้ ไม่เช่นนั้นการเลือกตั้งก็คงไม่สามารถที่จะหาเสียงได้ต้องอาศัยคนรักใคร่ช่วยเชียร์ แต่อย่าใช้ตำแหน่งหน้าที่การงาน ไปช่วยหาเสียงแบบนั้นทำไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย ซึ่งคนที่อยู่ในตำแหน่งจะต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง