เนปาลออกกฎเหล็ก ห้ามนักปีนเขา ‘ปีนเดี่ยว‘ พิชิตยอดเอเวอเรสต์
เนปาล ออกกฎใหม่ ห้ามไม่ให้นักปีนเขา ‘ปีนเดี่ยว’ ขึ้นยอดเขาเอเวอเรสต์และยอดเขาสูงต่างๆ ในเนปาลลำพังคนเดียวอีกต่อไป หวังลดอุบัติเหตุและการสูญเสียชีวิต หลังจากเกิดเหตุสลด มีชายวัย 85 และนักปีนเขาชาวสวิสชื่อดังระดับโลกต้องจบชีวิตอีก
เมื่อ 31 ธ.ค. 2560 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน รัฐบาลเนปาล ออกกฎหมายใหม่ ห้ามไม่ให้นักปีนเขา ‘ปีนเดี่ยว’ ขึ้นยอดเขาสูงต่างๆ ในประเทศ รวมทั้งยอดเขาเอเวอร์เรสต์ เพียงลำพังคนเดียวอีกต่อไป เพื่อต้องการลดจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดกับนักปีนเขาจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต นอกจากนั้น กฎหมายใหม่ฉบับนี้ ยังห้ามไม่ให้ผู้พิการทุพพลภาพ ที่สูญเสียขาทั้งสองข้าง ตลอดจนคนตาบอด ปีนยอดเขาเอเวอเรตส์ ซึ่งเป็นยอดเขาสูงสุดในโลก โดยไม่มีใบรับรองทางการแพทย์อย่างถูกต้อง
เจ้าหน้าที่กระทรวงการท่องเที่ยวของเนปาล ชี้แจงถึงสาเหตุของการออกกฎหมายใหม่ในการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ที่เข้มงวดมากขึ้นเช่นนี้ ว่าเป็นเพราะต้องการให้นักปีนเขามีความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิมและพยายามลดจำนวนนักปีนเขาที่เสียชีวิตลง หลังจากมีนักปีนเขาเสียชีวิตจำนวนหนึ่งขณะพยายามปีนขึ้นไปยังยอดเอเวอเรสต์ในปีนี้
ทั้งนี้ จำนวนนักปีนเขาที่เสียชีวิตขณะพยายามจะพิชิตยอดเอเวอเรสต์ในฤดูกาลนี้อยู่ที่ 6 ศพ ในจำนวนนี้ รวมทั้งนายมิน บาฮาดูร์ เชอร์จัน วัย 86 ปี ซึ่งต้องจบชีวิตขณะที่เขาพยายามจะสร้างสถิติเป็นนักปีนเขาที่อายุมากที่สุดในโลกที่สามารถพิชิตยอดเอเวอร์เรสต์ บนเทือกเขาหิมาลัย และนักปีนเขาอีกคนที่ต้องเสียชีวิต ก็คือนายUeli Steck นักปีนเขาชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่ได้เสียชีวิตขณะพยายามปีนเดี่ยวไปให้ถึงยอดเขาลูกหนึ่ง ซึ่งอยู่ใกล้กับยอดเอเวอเรสต์