'บิ๊กตู่' งดรับกระเช้าอวยพรปีใหม่
นายกรัฐมนตรี ขอไม่รับกระเช้าอวยพรปีใหม่ ยังไม่มีใครทาบทามลงการเมือง ขออย่าระแวง นายกรัฐมนตรี คนนอกอาจเป็นคนอื่น
เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2560 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่นี้ไม่ได้ไปไหนอาจไปเล่นกอล์ฟใกล้ๆ หรือ ทานข้าวเป็นการภายในกับครอบครัว และได้บอกกับทุกคนว่าไม่ต้องมาอวยพร หรือมอบของขวัญให้แต่ขอให้กลับไปดูแล และอวยพรลูกน้อง หรือคนที่รักดีกว่าเพราะไม่ต้องการให้เป็นภาระเพียงแค่ส่งบัตรอวยพร ส่งความปรารถนาดีให้กันก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ดี ในปีใหม่นี้มีสิ่งที่ไม่อยากได้ คือ ความไม่สงบสุข และความขัดแย้ง และในวันข้างหน้าหากไม่เป็นนายกรัฐมนตรีก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง อย่าไปคิดว่าจะเป็นอย่างอื่น ซึ่งส่วนตัวอยากได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ได้นักการเมืองที่โปร่งใส มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาของประเทศตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้
ส่วนสิ่งที่คาดหวังในปีใหม่ หวังว่าจะสามารถลดความยากจน และความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยที่ไม่มีความขัดแย้งอีกต่อไป โดยขอประกาศว่า ถ้าสถานการณ์ยังมีความขัดแย้งสูงการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหรือไม่ ก็ไม่อาจรู้ได้ เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้มีการเลือกตั้งก็ขอให้มีความสงบสุขเรียบร้อย ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป เพียงต้องการปรามผู้ที่จะก่อความวุ่นวาย
นายกรัฐมนตรี ยืนยันด้วยว่า การออกคำสั่งหัวหน้าคสช. ตามมาตรา 44 เรื่องการขยายเวลาเกี่ยวกับการจัดการสมาชิกพรรคการเมือง โดยเฉพาะเรื่องสมาชิกพรรค ต้องกลับมายืนยันการเป็นสมาชิกพรรค เสียค่าบำรุงสมาชิกใหม่ภายใน 30 วัน นั้นไม่ใช่การรีเซ็ต หรือสลายความเป็นสมาชิกของพรรคการเมือง แต่เป็นการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เพื่อต้องการให้เกิดความชัดเจนขึ้นว่า คำว่าสมาชิกพรรคเป็นอย่างไร ส่วนที่อาจจะกลัวว่าสมาชิกพรรคเดิมจะย้ายไปอยู่พรรคใหม่นั้น เป็นเพราะตัวเองที่อุดมการณ์สู้พรรคอื่นไม่ได้หรือไม่ ซึ่งหากดีจริงสมาชิกพรรคเหล่านั้นก็ต้องอยู่ ดังนั้นถ้าเชื่อมั่นในอุดมการณ์เดียวกัน ดังที่มีผู้ที่เคยระบุว่า อยากตายไปกับประชาธิปไตยกับพรรคนี้พรรคนั้น แล้วจะกลัวอะไร พร้อมยืนยันการดำเนินการเรื่องนี้ไม่ได้ไปละเมิดหรือล้มกฎหมาย และไม่ต้องการไปแก้ไข กฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ส่วนกระแสข่าวเตรียมตั้งพรรคทหาร นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า จะตั้งทำไม ตั้งได้หรือ ซึ่งสื่อต้องให้ความเป็นธรรมด้วย โดยยกตัวอย่าง ใครก็ตามไปรวบรวมคนตั้งพรรคการเมืองลงเลือกตั้ง แต่ก็ต้องอยู่ที่ประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่ ดังนั้นทุกพรรคการเมืองต้องไปหาคนใหม่ที่สังคมยอม เป็นคนดี แต่หากเป็นแบบเดิมๆก็จะขัดแย้งกันเช่นเดิม นอกจากนี้ ยัง กล่าวถึงกรณี ที่มีหลายคนประกาศเตรียมตั้งพรรคการเมือง และ สนับสนุนตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ว่ายังไม่มีใครมาถาม และยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะรับหรือไม่ โดยสถานการณ์ จะเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง พร้อมขอทุกฝ่ายอย่ากังวล ว่าตนเองจะเข้ามาเป็น นายกรัฐมนตรีคนนอก เพราะอาจจะเป็นคนอื่นก็ได้