ผลโพลล์เอแบค เผย กว่าครึ่งคนใส่ใจถึงคุณค่าของการจัดกิจกรรมสงกรานต์ อันดับแรกตั้งใจทำบุญตักบาตร
นางสาว ปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง การวางแผนและกิจกรรมที่ตั้งใจจะทำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,217 ตัวอย่าง โดยดำเนินการสำรวจในระหว่างวันที่ 3 – 5 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกเขต/อำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชนที่ตอบแบบสอบถามระดับครัวเรือน โดยมีช่วงความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 พบว่า
เมื่อถามถึงความรู้สึกต่อการจัดกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ พบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.1 รู้สึกถึงคุณค่าของการจัดกิจกรรมมาก - มากที่สุด แต่ก็มีกลุ่มตัวอย่างบางส่วนหรือร้อยละ 14.4 ยังไม่แน่ใจ ในขณะที่ร้อยละ 8.5 ไม่รู้สึกถึงคุณค่า - ไม่มีคุณค่าเลยของการจัดกิจกรรมประเพณีสงกรานต์
เมื่อถามถึงการเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พบว่ากลุ่มตัวอย่างกว่าครึ่งหรือร้อยละ 54.7 ระบุตั้งใจจะเดินทางไปต่างจังหวัด โดยนำรถยนต์ส่วนตัวไป (ร้อยละ 40.2 ) เดินทางโดยรถประจำทางปรับอากาศ เช่น รถทัวร์ (ร้อยละ 33.4 ) รถตู้ รถเช่า (ร้อยละ 6.8) รถไฟ (ร้อยละ 5.9) รถตู้โดยสารรับจ้างประจำทาง (ร้อยละ 5.5) เครื่องบิน (ร้อยละ 3.5) เป็นต้น และร้อยละ 45.3 ไม่ไปต่างจังหวัด
ส่วนกิจกรรมที่จะทำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พบว่า อับดับแรกหรือร้อยละ 54.1 ตั้งใจจะทำบุญตักบาตร/ร่วมงานทำบุญตามประเพณี รองลงมาร้อยละ 45.3 ตั้งใจจะไปรดน้ำ/อวยพรผู้ใหญ่ ร้อยละ 36.5 ตั้งใจจะร่วมกิจกรรมกับคนในครอบครัว ร้อยละ 33.5 เล่นน้ำสงกรานต์ / การละเล่นต่างๆ ร้อยละ 33.3 เยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง ร้อยละ 32.6 กลับภูมิลำเนาเดิม ร้อยละ 31.9 สรงน้ำพระ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ตั้งใจจะทำ อาทิ สังสรรค์กับคนรู้จัก ท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยว ดื่มเหล้า ใช้ยาเสพติด ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามเมื่อถามถึงพรที่อยากได้รับในวันสงกรานต์มากที่สุด พบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 32.3 ต้องการมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง รองลงมาร้อยละ 25.7 ต้องการความร่ำรวยมีเงินทอง/มีโชคลาภ ร้อยละ 16.1 ต้องการมีชีวิตคู่ / ครอบครัวที่อบอุ่น ร้อยละ 11.2 ต้องการความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ร้อยละ 7.3 ต้องการประสบความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียน ร้อยละ 5.1 ต้องการให้คนที่เรารักมีความสุข และร้อยละ 2.3 ต้องการมีคนเคารพรัก /มีคนนับหน้าถือตา
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 45.0 เป็นชาย ร้อยละ 55.0 เป็นหญิง ตัวอย่างร้อยละ 3.9อายุน้อยกว่า 20 ปี ร้อยละ 19.2 อายุระหว่าง 20–29 ปี ร้อยละ 22.9 อายุระหว่าง 30–39 ปี ร้อยละ 22.8 อายุระหว่าง 40–49 ปี และร้อยละ 31.2 อายุ 50 ปีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 68.5 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 29.2 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และร้อยละ 2.3 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี ตัวอย่างร้อยละ 7.9 ระบุอาชีพข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 18.3 ระบุเป็นพนักงานบริษัท ร้อยละ 3.5 ระบุอาชีพค้าขายอิสระ/ส่วนตัว/ผู้ประกอบการ/เจ้าของกิจการ ร้อยละ 13.6 เป็นนักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 46.2 ระบุเป็นผู้ใช้แรงงาน/รับจ้างทั่วไป/ลูกจ้างโรงงาน/สถานประกอบการร้อยละ 10.5 ระบุว่างงาน/ไม่ได้ประกอบอาชีพ ตัวอย่างร้อยละ 13.2 ระบุรายได้ ไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 25.4 ระบุ 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 25.1 ระบุ 10,001-15,000 บาท ร้อยละ 13.5 ระบุ 15,001-20,000 บาท และร้อยละ 22.8 ระบุมากกว่า 20,000 บาท ตามลำดับ
