เมียนมาห้ามผู้แทนองค์การสหประชาชาติเข้าประเทศ
นายกรัฐมนตรีตุรกีประณามรัฐบาลเมียนมา กรณีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ขณะที่รัฐบาลเมียนมาสั่งห้ามผู้แทนสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมาเข้าประเทศ
นายบินาลี ยิลดิริม นายกรัฐมนตรีตุรกี เดินทางไปยังค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในเมืองคอกซ์ บาซาร์ ของบังกลาเทศ พร้อมทั้งประณามรัฐบาลเมียนมาที่ก่อเหตุ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ชาวโรฮิงญา
นายกรัฐมนตรีตุรกี ระบุว่า ทหารเมียนมาพยายามทำลายชุมชนชาวโรฮิงญา และกลั่นแกล้งด้วยการเผาบ้านเรือน หมู่บ้าน ข่มขืน ละเมิดทางเพศผู้หญิงและสังหารชาวโรฮิงญา พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมโลก ร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นว่า ชาวโรฮิงญาจะกลับภูมิลำเนาในรัฐยะไข่ ได้อย่างปลอดภัย
ด้านองค์การแพทย์ไร้พรมแดน เปิดเผยว่า มีชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 6,700 คน ถูกสังหาร ช่วงระหว่างวันที่ 25 ส.ค. - 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่องค์การสหประชาชาติ ระบุว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ส่วนนางยางฮี ลี ผู้แทนพิเศษสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมา เปิดเผยว่า รัฐบาลเมียนมาไม่อนุญาตให้เธอเข้าประเทศ ซึ่งมีกำหนดเยือนรัฐยะไข่เดือนมกราคมที่จะถึงนี้ ทำให้รู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจดังกล่าว พร้อมทั้งตั้งข้อสงสัยว่า อาจกำลังเกิดเหตุโศกนาฎกรรมที่น่ากลัวในรัฐยะไข่
ขณะที่รัฐบาลเมียนมา ชี้แจงว่า การสั่งห้ามนางลีเข้าประเทศ เนื่องจากนางลีรายงานสถานการณ์ในรัฐยะไข่ด้วยความไม่ยุติธรรม มีอคติและลำเอียง ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อเมียนมา