ดูชัดๆ พฤติกรรมนักการเมือง จ.อุทัยฯซุกทรัพย์สิน-พระนครศรีฯซุกบ้าน 4 แสน
ดูชัดๆ คำพิพากษาคดี 2 นักการเมืองท้องถิ่น ส.อบจ.อุทัยธานี ซุกเงินฝาก หุ้น ที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะ เงินกู้สถาบันการเงิน ขณะที่ รองนายก อบต. อุทัย พระนครศรีอยุธยา ไม่แจ้ง บ้าน 400,000 บาท
นักการเมืองท้องถิ่น 2 รายล่าสุดที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้มีความผิดคดีบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเท็จต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) นายเอ ถนอมมิตรวัฒนา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี (ส.อบจ.อุทัยธานี) และ น.ส. สพสันติ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปสาระสำคัญ ในคำพิพากษามาเสนอ
1. นายเอ ถนอมมิตรวัฒนา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี (ส.อบจ.อุทัยธานี) จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้ง ให้ทราบ
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้คัดค้าน (นายเอ ถนอมมิตรวัฒนา) ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ส.อบจ.อุทัยธานี ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2551 ปฏิญาณตน เข้ารับหน้าที่ต่อสภา อบจ.อุทัยธานี เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2551 และพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2555 ต่อมาได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ส.อบจ.อุทัยธานี ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 ก.ค.2555 ปฏิญาณตนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2555 และยังคงดำรงตำแหน่งจนถึง ปัจจุบันตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 1/2557 ลงวันที่ 25 ธ.ค.2557
ในการดำรงตำแหน่ง ส.อบจ.อุทัยธานี ครั้งที่ 1 ผู้คัดค้านยื่นบัญชีฯกรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2551 ซึ่งพ้นเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่ผู้ร้องเห็นว่าล่วงเลยกำหนดอายุความการดำเนินคดีอาญา และล่วงพ้นเวลาที่จะห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองและไม่ได้ ขอให้ศาลวินิจฉัย ส่วนกรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี และกรณี เข้ารับตำแหน่ง ส.อบจ.อุทัยธานี ครั้งที่ 2 ผู้คัดค้านยื่นบัญชีต่อผู้ร้อง เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2555 วันที่ 1 ก.ค.2556 และ วันที่ 27 ก.ย.2555 ตามลำดับ แต่ในการยื่นบัญชีฯทั้งสามกรณี ดังกล่าว ผู้คัดค้านไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินบางรายการ ได้แก่ เงินฝาก เงินลงทุน ที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะ และเงินกู้สถาบันการเงิน ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งผู้คัดค้านให้ชี้แจง ข้อเท็จจริงและเหตุผลของการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวแล้ว ผู้คัดค้านมีหนังสือชี้แจงว่าผู้คัดค้านประสบปัญหา ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ธนาคารเจ้าหนี้ได้ติดตามทวงถามและฟ้องบังคับจำนอง ผู้คัดค้านได้รวบรวม ต้นฉบับเอกสารหลายรายการนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาล จึงทำให้ไม่สามารถชี้แจงภาระ หนี้สินและทรัพย์สินต่อผู้ร้องได้ทั้งหมด ประกอบกับเป็นการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นครั้งแรก ทำให้การชี้แจงในครั้งต่อ ๆ มาผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปด้วย และผู้คัดค้านขาดความรู้ความเข้าใจมิได้ มีเจตนาปกปิดทรัพย์สินต่อผู้ร้อง
มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านจงใจยื่นบัญชีฯต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ใ นการดำรงตำแหน่ง ส.อบจ.อุทัยธานี ครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.อบจ.อุทัยธานี ครั้งที่ 2 หรือไม่
ศาลเห็นว่า ผู้คัดค้านเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้องภายในสามสิบวันนับแต่ วันเข้ารับตำ แหน่ง วันพ้นจากตำ แหน่ง และวันที่พ้นจากตำ แหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ผู้คัดค้านยื่นบัญชีฯ ต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่ง ส.อบจ.อุทัยธานี ครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.อบจ.อุทัยธานี ครั้งที่ 2 แต่ไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินให้ถูกต้องครบถ้วนทั้งสามครั้ง ได้แก่ เงินฝาก เงินลงทุน ที่ดิน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะ และเงินกู้สถาบันการเงิน
ผู้ร้อง มีหนังสือแจ้งให้ผู้คัดค้านชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องโดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินดังกล่าวแล้ว แม้ผู้คัดค้านจะชี้แจง ต่อผู้ร้องในทำนองว่านำต้นฉบับเอกสารเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีในชั้นศาล ประกอบกับเป็น การยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นครั้งแรก ส่งผลทำให้การชี้แจงในครั้งต่อ ๆ มาผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปด้วย ผู้คัดค้านขาดความรู้ความเข้าใจในการยื่นชี้แจงก็ตาม แต่คำชี้แจงของผู้คัดค้านมิใช่ข้ออ้างตามกฎหมาย หรือเหตุผลอันสมควรที่จะอ้างได้ว่าไม่มีเจตนายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ จึงฟังได้ว่า ผู้คัดค้าน จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี ครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตำแหน่ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี ครั้งที่ 2 มีผลทำให้ผู้คัดค้านต้องพ้นจากตำแหน่ง ที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน และต้องห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย
พิพากษาให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่ง ส.อบจ.อุทัยธานีในวันที่ 21 ก.ย.2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯ วินิจฉัย และห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 21 ก.ย.2560 ซึ่งเป็นวันที่ ศาลฎีกาฯวินิจฉัย กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดำรงตำแหน่ง ส.อบจ.อุทัยธานี ครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.อบจ.อุทัยธานี ครั้งที่ 2 การกระทำของผู้คัดค้านเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป จำคุกกระทงละ 2 เดือน และปรับกระทงละ 8,000 บาท รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 4 เดือน และปรับ 16,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 202/2560- 21 ก.ย. 2560)
2.น.ส. สพสันติ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา จงใจยื่นบัญชีฯด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้คัดค้านได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.อุทัย เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2555 และดำรงตำแหน่งอยู่จนถึงปัจจุบันตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 1/2557 ลงวันที่ 25 ธ.ค.2557 ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง ต่อผู้ร้องเมื่อ 28 ก.ย.2555 ซึ่งพ้นเวลาที่กฎหมายกำหนด และไม่แสดงรายการทรัพย์สินที่ดินโฉนดเลขที่ 23710 ต.อุทัย พร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นทาวน์เฮาส์สองชั้นเลขที่ 288 หมู่ที่ 4 ต.อุทัย อ.อุทัย ราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ดังกล่าว 400,000 บาท ซึ่งผู้คัดค้านมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ ผู้ร้องมีหนังสือแจ้งให้ ผู้คัดค้านชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลของการไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินให้ถูกต้องครบถ้วน ผู้คัดค้านทำหนังสือชี้แจงและให้ถ้อยคำไว้ต่อผู้ร้อง แต่ผู้ร้องเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควร
ผู้คัดค้านชี้แจงว่าเหตุที่ไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเพราะหลงลืมเนื่องจากสามีของผู้คัดค้านดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อผู้คัดค้านและเป็นผู้เก็บโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวไว้ โดยนำมามอบให้ผู้คัดค้าน เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2556 ซึ่งเป็นวันเกิดของบุตร แต่คำชี้แจงของผู้คัดค้านไม่น่าเชื่อถือ และเป็นการง่ายแก่การกล่าวอ้าง ทั้งมิใช่ข้ออ้างตามกฎหมายที่จะอ้างได้ว่า ไม่มีเจตนายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ จึงฟังได้ว่า ผู้คัดค้านจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตำแหน่งด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ เมื่อผู้คัดค้านยังคงดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.อุทัย จึงต้องพ้นจากตำแหน่งที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน และมีผลห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใด ในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย
ให้ผู้คัดค้านพ้นจากตำแหน่งรองนายก อบต. อุทัยที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ 21 ก.ย.2560 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯ วินิจฉัย และห้ามมิให้ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 21 ก.ย.2560 ซึ่งเป็นวันที่ ศาลฎีกาฯวินิจฉัย กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้คัดค้านให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 208/2560- 21 ก.ย. 2560)
อ่านประกอบ
ซุกบัญชีฯ 6 คน ศาลฎีกาฯฟันอีกลอต ส.อบจ.พัทลุง พ้นตำแหน่งทันที
ศาลฎีกาฯฟัน ส.จ.อุทัยฯกลุ่มชาดาซุกทรัพย์สินอื้อ-นักการเมืองอยุธยาไม่แจ้งทาวน์เฮ้าส์