ด่วน! แถลง ผลสอบ 'น้องเมย' เสียชีวิต จากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
กองทัพไทย แถลงผลการสอบข้อเท็จจริง กรณี 'น้องเมย' นักเรียนเตรียมทหาร เสียชีวิต ย้ำชัดเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ยืนยันไม่มีใครทำร้าย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. 2560 พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของน้องเมย หรือ นตท.ภัคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหาร ได้แถลงผลการสอบสวน ระบุว่าถึงเหตุการณ์ก่อนการเสียชีวิตของ นตท.ภัคพงศ์ ได้เข้าห้องพยาบาล ซึ่งมีการนำโทรศัพท์ให้โทรหาบิดา ซึ่งต่อมาได้มีการล้มลงต่อหน้าเพื่อน 4 คน จนนำส่งรพ.นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ซึ่งแพทย์ได้การทำ CPR โดยผู้ปกครองได้ร้องขอให้ CPR ต่อเนื่องตามการร้องขอในเวลา 19.30 น. วันที่ 17 ต.ค. รวมทำ CPR 4 ชม.ใช้เจ้าหน้าที่ 10 กว่าคน และต่อมาได้เสียชีวิต ทั้งนี้ผู้ปกครองได้เห็นชอบการส่งศพชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต
นอกจากนี้ จากผลการสอบสวนจากภาพวงจรปิดช่วงที่ผ่านมา ไม่ปรากฏถูกผู้หนึ่งผู้ใดทำร้ายร่างกาย โดยเฉพาะช่วงบ่ายวันที่ 17 ต.ค. พบว่า นตท.ภัคพงศ์ มีความเครียดสูง และล้มลงต่อหน้าเพื่อนๆ สรุปไม่มีใครทำร้าย
พร้อมระบุว่า ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 12 ต.ค. นตท.ภัคพงศ์ มีการล้มลงจากบันไดด้วยตนเอง มีการนอนตะแคงซ้ายมือกุมหน้าอก ซึ่งจากการสอบถามพบว่ามีการจุกหน้าอก ซึ่งแพทย์ตรวจสอบไม่พบบาดแผล และทำการส่งรพ.นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และกลับในวันที่ 15 ต.ค. ซึ่งจากพยานและคำให้การไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดสั่งทำร้ายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต และจากการแพทย์พยาธิวิทยาพบเซลล์หัวใจผิดปกติ แพทย์สรุปว่าเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
อย่างไรก็ตามวันนี้ที่ไม่เชิญครอบครัวของ นตท.ภัคพงศ์ มาฟังผล เพราะเราไม่ใช่คู่ขัดแย้ง หรือคู่กรณี ฉะนั้นเราไม่อยากให้มีการตอบโต้กัน ในส่วนข้อซักถาม หรือข้อมูลไปมา แต่ที่เราแถลงทั้งหมดนี้ภายหลังการแถลงจะได้นำเรียนให้ผู้ปกครองได้ทราบและได้เคลียร์ข้อสงสัย ซึ่งผู้ปกครองได้ข้อสงวนไม่ให้เปิดเผยข้อมูลผลชันสูตรครั้งล่าสุด ที่เกิดจากการกระแทกของของแข็ง โดยแพทย์ไม่ได้ระบุเกิดจากการทำร้ายร่างกาย อีกทั้งในการทำ CPR นานถึง 4 ชม.
ส่วนการธำรงวินัย ในการเข้าห้องเซาว์น่า ซึ่ง นตท.ภัคพงศ์รวมถึงเพื่อน 1 คน ได้มีการแจ้งว่าป่วย จึงนำออกมา ทั้งนี้ยืนยันระบบธำรงวินัยเป็นระบบที่ดี ซึ่งอาจต้องมีปรับปรุงท่าธำรงวินัย และไม่ให้ใช้ท่าธำรงวินัยที่ถูกห้าม แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมามีการฝ่าฝืนจากความคึกคะนอง ซึ่งหากพบจะถูกลงโทษโดยทันที