ดีเอสไอหาช่อง คืนทรัพย์ 3.8พันล้านสมาชิกคลองจั่น
ดีเอสไอส่งหนังสือ ปปง. รอบ 2 หวังใช้ช่องกฏหมายคืนทรัพย์ 3,800 ล้านบาทให้สมาชิกสหกรณ์คลองจั่น
นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยหลังเข้าร่วมประชุมกับพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตัวแทนสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น เพื่อพิจารณาคำร้องขอให้ดีเอสไอถอนอายัด และคืนทรัพย์สินสหกรณ์ฯคลองจั่น ที่ชนะคดีแพ่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 ทรัพย์สินจำนวน 299 รายการ ประกอบด้วยที่ดินจากทั่วประเทศ เงินสด รถยนต์ รวมมูลค่าทรัพย์สิน 3,811 ล้านบาท โดยมีชื่อของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสมาชิกสหกรณ์คลองจั่นเป็นผู้ครอบครอง โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง
นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า การคืนทรัพย์สินกว่า 3,800 ล้านบาทในคดีนี้ พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะคืนของกลางเพื่อเยียวยาสมาชิกสหกรณ์เนื่องจากจะต้องผ่านกระบวนการพิจารณาทางอาญาก่อน เพราะการยึดอายัดทรัพย์ในคดีนี้ถือเป็นคดีอาญา ต้องรอให้ศาลพิจารณาคดีจนถึงที่สุด จึงจะสามารถคืนของกลางได้ ซึ่งหากรอขั้นตอนทางศาลอาจจะต้องใช้เวลานาน วันนี้ที่ประชุมจึงมีมติจะส่งเรื่องให้ สำนักป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ใช้กฎหมายของ ปปง.ดำเนินการน่าจะเร็วกว่า
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้ประสานไปยัง ปปง. แล้วแต่ ปปง.ได้ส่งเรื่องกลับคืนมาให้ดีเอสไอ โดยระบุว่าทรัพย์ในคดีเพ่งที่กลุ่มสมาชิกสหกรณ์ฯระบุนั้นเป็นทรัพย์ที่เกี่ยวพันกับคดีอาญาในคดีฟอกเงิน จึงถือเป็นทรัพย์ในคดีอาญาไม่สามารถถอนอายัดหรือคืนทรัพย์ได้
ทั้งนี้ คาดว่าในสัปดาห์หน้าพนักงานสอบสวนจะทำหนังสือหารือไปยัง ปปง.อีกครั้งว่าจะสามารถใช้ช่องทางตามพ.ร.บ.กฎหมายฟอกเงินเพื่อนำมาเยียวยาผู้เสียหายได้หรือไม่ เพราะปปง.มีกฎหมายเฉพาะที่สามารถดำเนินการได้เร็วกว่าโดยที่ไม่ต้องรอคำสั่งศาล
สำหรับการประชุมครั้งนี้พนักงานสอบสวนได้เชิญตัวแทน ปปง.เข้าร่วมหารือในเรื่องดังกล่าวแต่ปปง. ไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาประชุม โดยในส่วนของตัวแทนสหกรณ์ฯเข้าร่วมฟังคำชี้แจงของพนักงานสอบสวน ก็เข้าใจจำกัดของข้อกฎหมายและอำนาจหน้าที่ ของพนักงานสอบสวน แต่ทางพนักงานก็ได้หาทางออกที่จะช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับสมาชิกได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของปปง.ด้วย