รองโฆษกตร.ยันดีเดย์ใช้ใบสั่งบาร์โค้ด17ธ.ค.นี้
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจงการนำใบสั่งแบบบาร์โค้ดมาใช้ ดีเดย์ 17 ธ.ค.นี้ ชำระผ่าน ไปรษณีย์และธนาคาร
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผย ถึงการนำใบสั่งรูปแบบใหม่ที่มีบาร์โค้ด (PTM) มาบังคับใช้นั้น จากการที่ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ให้รับทราบถึงใบสั่งรูปมีบาร์โค้ดรูปแบบใหม่ ที่จะเริ่มใช้ 17 ธ.ค. 2560 นี้ โดยในระยะแรกจะนำมาใช้ใน 4 พื้นที่ก่อน ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ( กรุงเทพมหานคร ) , กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 /ตำรวจภูธร ภาค 2 /ตำรวจภูธร ภาค 7 โดยในระยะแรกนี้จะเป็นการบังคับใช้ เฉพาะกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ออกใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่(ใบสั่ง) แปะไว้ที่หน้ารถ หรือ ในกรณีที่ไม่ได้มีการเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราว แต่ได้ออกใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่(ใบสั่ง)ให้แก่ผู้ขับขี่ไว้ เช่นกรณี จอดรถกีดขวางการจราจร จอดรถในที่ห้ามจอด เป็นต้น ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมในกรณีที่ เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้า หน้าที่ ตั้งจุดตรวจ กวดขันวินัยจราจร แล้วตรวจพบการกระทำความผิด ได้เรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราว แล้วได้ออกใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่ไว้ ที่ต้องไปชำระค่าปรับที่โรงพักหรือสถานที่ที่กำหนดไว้ภายใน 7 วัน ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 140
รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ในกรณีที่ไม่ได้มีการเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราว ไม่ต้องเดินทางไปโรงพักหรือสถานีตำรวจ และสามารถตรวจสอบย้อนหลังถึงพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใด ที่เป็นผู้ออกใบสั่ง ว่าได้ออกใบสั่งแก่ผู้ใด เมื่อใด และในข้อหาความผิดใด โดยสามารถชำระผ่านธนาคารกรุงไทย หรือตู้ ATM หรือ Internet Banking หรือ Counter Service หรือ ไปรษณีย์ โดยคิดค่าธรรมเนียมครั้งละ 20 บาท ซึ่งหากผู้ขับขี่ไม่ชำระภายในกำหนด จะออกใบแจ้งเตือนให้มาชำระภายใน 30 วัน และจะส่งข้อมูลไปยังกรมขนส่งเพื่อขอดำเนินการงดออกเครื่องหมายแสดงภาษี จนกว่าจะชำระค่าปรับเสร็จสิ้น ตาม คำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 14/2560 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย ว่าด้วยการจราจรทางบก สำหรับในพื้นที่ต่างๆที่ยังไม่ได้บังคับใช้นั้น จะเริ่มในวันที่ 31 ม.ค. 2561