โพลชี้ปชช.หนุนปลดล็อคพรรคการเมือง-รับได้เลื่อนเลือกตั้งไปต้นปี 62
'นิด้าโพล' เผยประชาชนหนุนปลดล็อคพรรคการเมือง พร้อมเลือกตั้งปลายปี 61 ร้อยละ 62.23 ยอมรับได้เลื่อนเลือกตั้งไปต้นปี 62 หากยังปฏิรูปประเทศไม่แล้วเสร็จ บ้านเมืองยังไม่สงบเรียบร้อย
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ปลดล็อคพรรคการเมืองกับการเลื่อนการเลือกตั้ง” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 8 – 9 ธ.ค. 2560 โดยสอบถามความคิดเห็น จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไปทั่วประเทศ กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการไม่ปลดล็อคให้พรรคการเมืองซึ่งอาจจะทำให้การเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไป การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างด้วยความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ 'นิด้าโพล' ด้วยวิธีแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) โดยแบ่งชั้นภูมิตามภูมิภาค จากนั้นในแต่ละภูมิภาค สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95.0 และมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (Standard Error: S.E.) ไม่เกินร้อยละ 1.4
จากการสำรวจเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการปลดล็อคให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมของพรรคเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งปลายปี พ.ศ. 2561 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 77.60 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะ แต่ละพรรคการเมืองจะได้มีการเตรียมตัว เตรียมนโยบายของพรรค เพื่อใช้ในการหาเสียง เป็นแรงกระตุ้นในการระดมความคิดของนักการเมือง เกิดความเป็นธรรม และความเป็นอิสระต่อพรรคการเมือง ขณะที่บางส่วนระบุว่า อยากให้มีการเลือกตั้ง เพื่อที่จะทำให้บ้านเมือง เศรษฐกิจดีขึ้น และเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศว่ารัฐบาลไทยมาจากการเลือกตั้ง รองลงมา ร้อยละ 17.60 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติ ยังไม่สงบเรียบร้อยดี อาจทำให้เกิดความวุ่นวาย ไม่มั่นใจพรรคการเมือง มีแต่นักการเมืองหน้าเดิม ๆ ขณะที่บางส่วนระบุว่า รอให้ทุกอย่างลงตัวกว่านี้ บ้านเมืองสงบดีอยู่แล้ว และร้อยละ 4.80 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ด้านความเชื่อมั่นของประชาชนว่าจะยังมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในปลายปี พ.ศ. 2561 หรือไม่ พบว่า ร้อยละ 10.96 ระบุว่า มีความเชื่อมั่นมาก ร้อยละ 28.56 ระบุว่า มีความเชื่อมั่นค่อนข้างมาก ร้อยละ 29.92 ระบุว่า มีความเชื่อมั่นค่อนข้างน้อย ร้อยละ 21.28 ระบุว่า ไม่มีความเชื่อมั่นเลย และร้อยละ 9.28 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการยอมรับของประชาชน หากการปฏิรูปประเทศยังไม่แล้วเสร็จและอาจทำให้การเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไปเป็นช่วงต้นปี พ.ศ. 2562 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 62.32 ระบุว่า ยอมรับได้ เพราะ อยากให้ทำการปฏิรูปประเทศให้แล้วเสร็จก่อน สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่สงบเรียบร้อยดี ยังต้องมีการจัดการระบบและระเบียบอีกหลาย ๆ อย่าง ให้เวลาในการปฏิรูป ปรับปรุงไปเรื่อย ๆ ในส่วนของประชาชนนั้นทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ไม่มีสิทธิ์ต่อต้าน ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่อยากให้มีการเลือกตั้งอีก นักการเมืองสร้างแต่ปัญหา ถ้าหากเลือกตั้งไปแล้วก็ไม่น่ามีอะไรดีขึ้น และไม่มีผลกระทบจะเลือกตั้งตอนไหนก็ได้ รองลงมา ร้อยละ 31.44 ระบุว่า ยอมรับไม่ได้ เพราะ อยากให้มีการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด อยากให้รัฐบาลทำตามที่ได้กำหนดไว้ อยากให้เป็นประชาธิปไตย เศรษฐกิจแย่มาก ทำให้ต่างชาติขาดความเชื่อมั่น และไม่ชอบการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ อยากให้บ้านเมืองดีขึ้นกว่านี้ บางส่วนระบุว่า ที่ผ่านมาไม่เห็นมีการปฏิรูปอะไรเลย การบริหารงานก็ไม่ดีเท่าที่ควร และอยากให้ยกเลิกการประกาศใช้ มาตรา 44 และร้อยละ 6.24 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ