“ประยุทธ์” คุยปราบคอร์รัปชันเห็นผล จวกพวกค้านการพัฒนาส่วนใหญ่เจตนาไม่บริสุทธิ์
“บิ๊กตู่” โวผลงานปราบคอร์รัปชันเห็นผล ลั่นวาทกรรมรัฐบาลละเลยคนจนถูกใช้ฉุดรั้งความก้าวหน้าของประเทศ เวลาจะพัฒนาอะไรถูกบิดเบือน - คัดค้านตลอด แต่จะพยายามอดทนทำให้ดีที่สุดเพื่อปฏิรูป จวกพวกออกมาติติงส่วนใหญ่เจตนาไม่บริสุทธิ์
วันนี้ (8 ธ.ค.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า วันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี ถือเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ซึ่งรัฐบาล และ คสช. ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการทุจริต ให้เป็นวาระเร่งด่วนและวาระแห่งชาติ ซึ่งได้มีการดำเนินการที่สำคัญๆ หลายประการ ส่งผลให้เห็นว่างานปราบปรามของ ป.ป.ช. สามารถจะทำคดีได้รวดเร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตามตัวเลขทางสถิติ ดังนี้ 1. คดีที่ ป.ป.ช. ดำเนินการแล้วเสร็จ ในปีงบประมาณ 2559 จำนวนเกือบ 3,000 คดี โดยเพิ่มเป็น 4,300 กว่าคดีในปี 2560 นี้ และ 2. ทรัพย์สินที่ ป.ป.ช. ชี้มูล - ร้องต่อศาลให้ริบทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ในปีงบประมาณ 2559 มูลค่ามากกว่า180 ล้านบาท โดยเพิ่มเป็น 853 ล้านบาท ในปีงบประมาณนี้ ที่กล่าวมาก็เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ยังมีการดำเนินการอื่นๆ และคดีความต่างๆ อีกมาก ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ
ทั้งนี้ ข้อมูลจากผลการสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เกี่ยวกับดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันของไทย เดือนมิถุนายนปีนี้ สะท้อนให้เห็นผลจากความพยายามของรัฐบาล - คสช. - ป.ป.ช. และองค์กรอิสระต่างๆ ในการต่อสู้กับปัญหาการทุจริต ที่ให้ความสำคัญกับการปลูกจิตสำนึกไม่ยอมรับ - ไม่นิ่งเฉยต่อการฉ้อราษฎร์บังหลวง จนประชาชนมีความตื่นตัวในเรื่องนี้สูงขึ้น รวมทั้งอยากมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตสูงขึ้น อีกด้วย
นายกฯ กล่าวอีกว่า กรณีที่มีการกล่าวอ้างว่ารัฐบาลนี้ไม่ดูแล ละเลยคนจน เอื้อประโยชน์คนรวยนั้น มันก็คงเป็นวาทกรรมที่ใช้มาทุกยุคทุกสมัย ที่พอจะมีการเปลี่ยนแปลง หรือมีการพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ก็ทำไม่ค่อยได้ ก็มีการทักท้วง มีการบิดเบือนมากมาย อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงทั้งระบบนั้น ทุกคนคงเข้าใจ ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก ยิ่งหากเราไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ร่วมมือกัน มีการแอบอ้างความต้องการของประชาชนในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพื่อผลทางการเมืองอยู่ตลอดเวลา มันไม่มีวันสำเร็จหรอก
อย่างไรก็ตาม รัฐบาล และ คสช. ก็จะพยายามทำในเรื่องนี้ให้ดีที่สุดด้วยความอดทน เพื่อการปฏิรูปประเทศในปัจจุบัน และส่งต่อระยะต่อไป ถ้าหากว่ารัฐบาล และ คสช. ทำ แล้วมีผู้บิดเบือนอยู่เรื่อยไป ก็ทำให้ทุกอย่างมันเป๋ไปเป๋มา มันก็จะพันธนาการ ฉุดรั้งความก้าวหน้าของบ้านเมือง สิ่งต่างๆ ที่ดีๆ ก็ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้ในเร็ววัน สังเกตได้จากคำกล่าวอ้างต่างๆ มักจะพูดถึงผลประโยชน์ สิ่งตอบแทน ให้กับประชาชน ติติงโดยเจตนาไม่บริสุทธิ์ ที่บริสุทธิ์ก็มีเยอะนะ แต่ส่วนใหญ่ที่ไม่บริสุทธิ์จะไม่คำนึงถึงหลักการและเหตุผล ไม่คำนึงถึงกฎหมาย ระเบียบแบบแผนใดๆ บางครั้งก็จะพูดแนะนำแต่สิ่งที่รัฐบาลได้ทำไปแล้ว ทำอยู่แล้ว แล้วตนเองก็ไม่เคยคิด ไม่เคยทำมาก่อน เพราะฉะนั้นรัฐบาลและ คสช.ไม่อาจจะไปบังคับให้ทุกคนเห็นตรงกันได้ แต่เราต้องใช้สติปัญญา ใช้ความรักความสามัคคีในการจะร่วมมือกันแก้ปัญหา เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งจากภายใน สำหรับรับมือจากความท้าทายที่จะเกิดขึ้นจากภายนอกให้ได้ทันเวลา