‘รัฐบาลกัมพูชา’ไม่แคร์! แม้โดน ‘สหรัฐ’ ระงับวีซ่า
รัฐบาลกัมพูชาแสดงท่าทีไม่สะทกสะท้านต่อการที่รัฐบาลวอชิงตันระงับออกวีซ่าเข้าสหรัฐให้กับบุคคลซึ่งมีพฤติกรรม "บ่อนทำลายประชาธิปไตย" โดยยืนยันยังมีอีกหลายประเทศที่มีความสัมพันธ์ต่อกัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2560 ว่านายสก อีสาน โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชา ( ซีพีพี ) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของสมเด็จฮุน เซน แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับการที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ บังคับใช้มาตรการจำกัดการเข้าเมืองสำหรับผู้ถือสัญชาติกัมพูชา "คนใดก็ตาม" ที่มีพฤติกรรม "เป็นอุปสรรค" ต่อกระบวนการประชาธิปไตย ว่าหากชาวกัมพูชาไม่สามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้ "ไม่ใช่ปัญหา" และในกรณีที่ไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมซึ่งรัฐบาลวอชิงตันหรือหน่วยงานเอกชนในสหรัฐจัดขึ้นได้ "ไม่เป็นไร" เนื่องจากยังมีการประชุมมากมายในอีกหลายประเทศ ที่กัมพูชาสามารถเข้าร่วมได้
ขณะที่กระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาออกแถลงการณ์วิจารณ์มาตรการดังกล่าว ว่าสะท้อนจุดยืนด้านนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลทรัมป์ในเรื่อง "การแทรกแซงกิจการภายในของรัฐอธิปไตย" ทั้งนี้ แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐไม่ได้เปิดเผยรายชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลพนมเปญคนใดบ้าง ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ แต่ระบุว่ามาตรการระงับออกวีซ่าครอบคลุมสมาชิกในครอบครัวของเจ้าหน้าที่รายนั้นเช่นกัน
อนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับสหรัฐทวีความตึงเครียดขึ้นอย่างชัดเจนนับตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้ เมื่อรัฐบาลของสมเด็จฮุน เซน เดินหน้า "ปฏิบัติการกวาดล้าง"ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองครั้งมโหฬาร ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่ตามกำหนดจะมีขึ้นในเดือนก.ค. ปีหน้า ด้วยการเพิกถอนใบอนุญาตขององค์กรอิสระ ( เอ็นจีโอ ) หลายแห่งที่ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลวอชิงตัน การจำกัดขอบเขตการทำงานของสถานีวอยซ์ ออฟ อเมริกา ( วีโอเอ ) และการปิดสถานีวิทยุเรดิโอ ฟรี เอเชีย แต่ที่ทำให้สหรัฐแสดงท่าทีมากที่สุด คือการที่ศาลฎีกาสั่งยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา ( ซีเอ็นอาร์พี ) จากความผิดฐานสนับสนุนนายเกิม สุขา หัวหน้าพรรคซึ่งถูกจับกุมในข้อหาเป็นกบฏเมื่อเดือนก.ย. ที่ผ่านมา และนายเกิม สุขา ยังไม่เคยปรากฏตัวต่อสาธารณชนอีกเลยนับจากนั้น