'หมอปิยะสกล' เปิดนิทรรศการวันหลักประกันสุขภาพโลก12 ธ.ค.รณรงค์มีสุขภาพดีถ้วนหน้า
สปสช. เปิดนิทรรศการวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล ต้นแบบหลักประกันสุขภาพไทย เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีของประชาชน พร้อมลงมติให้วันที่ 12 ธ.ค. เป็นวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าโลก
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2560 ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เป็นประธานประธานเปิดนิทรรศการวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล ต้นแบบหลักประกันสุขภาพไทย ผลิใบสู่งสังคมโลก โดยมี นพ.ชาตรี บานชื่น ประธานกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการ, นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช., นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เข้าร่วมในพิธิเปิด
ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2555 ข้อเสนอการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของทุกประเทศ ได้ผ่านการรับรองจากที่ประชุมใหญ่องค์การสหประชาชาติเป็นครั้งแรก องค์กรภาคีด้านสุขภาพต่างๆ ทั้งระดับประเทศและระหว่างประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กว่า 1,000 องค์กร ในมากกว่า 120 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศแกนหลักในการผลักดัน ได้มีมติร่วมกัน ให้วันที่ 12 ธ.ค. ของทุกปีเป็นวัน Universal Health Coverage Day หรือวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าโลกเพื่อรณรงค์ให้ทั่วโลกเห็นความสำคัญของการเคลื่อนไหวเพื่อส่งเสริมสุขภาพดี โดยการมีการระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในทุกประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติอย่างมั่นคงและยั่งยืนก่อนปี 2573
สำหรับประเด็นรณรงค์วันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าโลกในปี 2560 คือ “Rise for Our Right” เพื่อแสดงให้ประชาคมโลกสนับสนุนให้ประชากรได้ตระหนักถึงสิทธิที่จะมีหลักประกันสุขภาพและการมีสุขภาพดีถ้วนหน้า สำหรับในประเทศไทยนั้น เรามีนโยบายด้านสาธารณสุขที่ส่งเสริมและพัฒนาด้านหลักประกันสุขภาพมาอย่างต่อเนื่องยาวนานมากกว่า 3 ทศวรรษ จวบจนบรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในปี 2545 และในรัฐบาลปัจจุบัน ภายใต้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ของท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐบาลได้พัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพิ่มขึ้น ได้แก่
1) เพิ่มความครอบคลุมของระบบประกันสุขภาพในประชาชนไทย รวมทั้งคนในกลุ่มเปราะบางที่เข้าถึงได้ระบบบริการสุขภาพได้ยาก เช่น ผู้สุงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง, ผู้ต้องขัง
2) เพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่ที่ครอบคลุมอย่างกว้างขวางทั้งด้านการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และการฟื้นฟูสุขภาพ เช่น การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ การเพิ่มการรักษาด้วยยาราคาแพงเพื่อปกป้องครัวเรือนจากการล้มละลายจากค่ารักษาพยาบาล
“การพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพทั้งระบบจะไม่สามารถทำได้หากปราศความร่วมมือของทุกภาคส่วนได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข สปสช. สำนักงานประกันสังคม กรมบัญชีกลาง เครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ภาคีองค์กรภาครัฐและเอกชนเป็นต้น และที่สำคัญอย่างยิ่งยวด คือบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขผู้เสียสละทำงานหนักในหน่วยบริการทั้งของรัฐและเอกชน เป็นผู้มีส่วนสำคัญในการทำให้ประเทศไทยสามารถบรรลุผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ของการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า กิจกรรมการจัดนิทรรศการในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งจาก หลากหลายกิจกรรมที่จะมีการจัดต่อเนื่องไปถึงช่วงวันที่ 12 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันหลักประกันสุขภาพโลก อาทิเช่น การเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ผ่านสื่อวิทยุ โทรทัศน์ และ สื่อออนไลน์ จัดเวทีเสวนาวิชาการและระดมความคิดเห็นทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เป็นต้น นอกจากนั้นตนยังได้รับเชิญจากองค์การอนามัยโลกและรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมประชุมเวทีวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าโลก หรือ Universal Health Coverage Forum ประจำปี 2560 Health for All, Rising for Our Right to Universal Health Coverage ในวันที่ 12-15 ธันวาคมนี้ ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยจะบรรยายในหัวข้อ อนาคตของระบบสุขภาพ ต้นแบบการใช้ข้อมูลสุขภาพเพื่อขับเคลื่อนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในยุคต่อไป