คุกตลอดชีวิตอดีตวิศวกรกฟผ. ลอบวางบึ้ม รพ.พระมงกุฏฯ
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2560 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีลอบวางระเบิด รพ.พระมงกุฏเกล้าฯ หมายเลขดำ อ.2868/60 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวัฒนา หรือตุ่ม ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกรการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นจำเลยในความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.288 , 289(4) , ทำให้เกิดระเบิด ,ทำให้เสียทรัพย์ , พกพาอาวุธระเบิดไปในที่สาธารณะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218(4) , 221,222,224,358,371 และพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 , พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 ซึ่งระบุ
กรณีเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2560 เวลากลางวัน จำเลย ได้ประกอบวัตถุระเบิดแสวงเครื่องที่ขึ้นเองเป็นระบบไฟฟ้า(Electric Firing Circuit ) หรือ IC TIMER)ตั้งเวลาเป็นตัวจุดระเบิดประกอบกับวัตถุระเบิดแรงต่ำ ( LOW EXPLOSIVE) และดินดำ (BLACK POWDER ) แบบ "ไปป์ บอมบ์" ใส่ไว้ในท่อ พีวีซี 4 ชุด และใส่ในกระถางต้นไม้ 1 ชุด ทีบ้านพักย่านบางเขน ก่อนนำใส่ไว้ในแจกันดอกไม้ 1 ชุด ขึ้นรถโดยสารลอบไปติดไว้ที่ฝาผนังภายในห้อง "วงษ์สุวรรณ" รพ.พระมงกุฏเกล้า ฯจนเกิดระเบิดขึ้นทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และบาดเจ็บเล็กน้อยรวม 21 ราย ทรัพย์สินเสียหายหลายรายการมูลค่ากว่า 1,201,000 บาท
เหตุเกิดที่แขวงอนุสาวรีย์ชัยฯ เขตพญาไท กทม. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดรามจับกุมจำเลยได้พร้อมของกลางหลายรายการ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
จำเลยให้การรับสารภาพ โดยตลอดไม่ต่อสู้คดี ศาลจึงสืบพยานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพก่อนมีคำพิพากษา
โดยวันนี้เจ้าหน้าราชทัณฑ์ ได้เบิกตัวจำเลยซึ่งอยู่ในชุดนักโทษจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมาฟังคำพิพากษาโดยมีญาติจำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มีพนักงานสอบสวน สน.พญาไท และเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์และเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี เบิกความเกี่ยวกับภาพวงจรปิดพบชายต้องสงสัย รูปพรรณสันฐานตรงกับจำเลย รวมทั้งแผนผังประกอบระเบิดที่บ้านพักจำเลย ซึ่งจำเลยได้ทดลองแล้ว พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมีน้ำหนักมั่นคงน่าเชิ่อถือรับฟังได้ปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องจริง
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
พิพากษา จำคุกตลอดชีวิตฐานทำให้เกิดระเบิดจนผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, จำคุก 3 ปี ฐานประกอบวัตถุระเบิดซึ่งทำให้เกิดระเบิด, จำคุก 1 ปี ฐานครอบครองยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต และปรับ 1,000 บาท ฐานนำวัตถุระเบิดไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยรวมทั้งสิ้น 27 ปี ปรับ 500 บาท พร้อมให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีหมาย้ลขดำอ.2869/60ฐานประกอบ ทำและมีวัตถุระเบิด และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ให้จำคุก 8 ปี ปรับ 1,950 บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 4 ปี ปรับ ปรับ 975 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่13 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลอาญา ได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2869/60 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา3 เป็นโจทก์ฟ้องนายวัฒนา ฐานประกอบระเบิด ทำ และมีวัตถุระเบิด แบบไปป์บอมบ์ที่บ้านพักย่านบางเขนโดยให้จำคุก 4 ปี และจำคุกอีก 4 ปีฐานมีเครื่องยุทธภัณฑ์ (ระเบิดดินดำ)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ 1,950 บาท ฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองฯ จำเลยรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก ไว้ 4 ปี ปรับ 975 บาท ริบของกลาง
อย่างไรก็ตาม ยังมีคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา3 เป็นโจทก์ฟ้องนายวัฒนา ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นฯอีก หลายสำนวน จากกรณีที่นายวัฒนา ได้นำระเบิดแสวงเครื่องไปลอบวางไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ แล้วระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งอัยการแยกฟ้องไว้ตามพฤติการณ์ความผิด โดยศาลอาญาจะได้นัดฟังคำพิพากษาต่อไป