'อียู'ขึ้นบัญชีดำ17ประเทศ เป็นแหล่งหลบเลี่ยงภาษี
สหภาพยุโรป (อียู) ขึ้นบัญชีดำรัฐและดินแดนที่ 17 แห่ง ในฐานะแหล่งหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งรวมถึงเกาหลีใต้ มาเก๊า และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี )
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2560 ว่า นายปิแอร์ มอสโกวิซี กรรมาธิการด้านภาษีของคณะกรรมาธิการยุโรป ( อีซี ) แถลงเมื่อวันอังคาร ว่าที่ประชุมรัฐมนตรีคลังของสหภาพยุโรป ( อียู ) มีมติให้ขึ้นบัญชีดำรัฐและดินแดนที่ไม่ใช่สมาชิกอียูรวม 17 แห่ง เป็นแหล่งหลบเลี่ยงภาษี ได้แก่ อเมริกันซามัว บาห์เรน บาร์เบโดส เกรเนดา กวม เกาหลีใต้ มาเก๊า หมู่เกาะมาร์แชล มองโกเลีย นามิเบีย ปาเลา ปานามา เซนต์ลูเซีย ซามัว ตรินิแดดและโตเบโก ตูนิเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี )
ขณะเดียวกัน อียูยังจัดทำบัญชีรายชื่อรัฐและดินแดนอีก 47 แห่ง อยู่ในบัญชีสีเทา "เฝ้าระวัง" ที่ควรมีการปฏิรูปกฎหมายด้านภาษีของตัวเองเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานของอียู และเพิ่มความโปร่งใสให้เป็นไปตามบรรทัดฐานระหว่างประเทศในการกวาดล้างแหล่งหลบเลี่ยงภาษี โดยประเทศและดินแดนที่อยู่ในกลุ่มนี้ รวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี และฮ่องกง อนึ่ง มีรายงานด้วยว่า อียูถอนชื่อของโมร็อกโกและกาบูเวร์ดีออกจากบัญชีดำและบัญชีเฝ้าระวังในนาทีสุดท้าย
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของอียูในเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น 1 เดือน หลังเครือข่ายผู้สื่อข่าวสืบสวนสวนนานาชาติ ( ไอซีไอเจ ) ร่วมกับหนังสือพิมพ์ "ซุดดอยเชอร์" ของเยอรมนี เผยแพร่ "พาราไดซ์ เปเปอร์ส" เอกสารลับมากกว่า 13.4 ล้านชิ้น เมื่อเดือนที่แล้ว เปิดโปงรายชื่อของบุคคลและนิติบุคคลมากกว่า 120,000 รายชื่อ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งบริษัทนอกอาณาเขต ซึ่งรายชื่อที่น่าสนใจรวมถึง สำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระองค์ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส มกุฎราชกุมาร และนายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ
ทั้งนี้ การเผยแพร่เอกสารพาราไดซ์ เปเปอร์ส เกิดขึ้นราว 2 ปี หลังไอซีไอเจและซุดดอยเชอร์เผยแพร่เอกสาร 11.5 ล้านชุดในนาม "ปานามา เปเปอร์ส" เมื่อปี 2558 เกี่ยวกับการทำงานของบริษัทมอสแซค ฟอนเซกา และโยงใยไปถึงการจดทะเบียนบริษัทนอกอาณาเขตมากกว่า 200,000 แห่ง โดยผู้ที่อยู่ในรายชื่อรวมถึงผู้นำรัฐบาลของหลายประเทศ อาทิ นายซิกมุนดูร์ กุนน์ล็อกสัน ซึ่งต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์