กสม.ไทย รับตำแหน่ง 'ประธาน SEANF'พร้อมเดินหน้าผลักดันสมาชิกอาเซียนสร้างความเข้มแข็งตามหลักปารีส
ประธาน กสม. ได้เสนอข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินและป่าไม้ทั้งระบบ โครงการนำร่องการประเมินผลด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน ส่งเสริมความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานระหว่างสมาชิกอาเซียน
วันที่ 16 พ.ย. 2560 นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า ระหว่างวันที่ 8-10 พ.ย. 2560 ตนพร้อมด้วยนางภิรมย์ ศรีประเสริฐ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมการประชุมประจำปีของกรอบความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia National Human Rights Institutions Forum - SEANF) ครั้งที่ 14 ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยมีสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติรวม 6 ประเทศที่เป็นสมาชิกเข้าร่วมประชุม ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ ติมอร์-เลสเต และไทย ในช่วงท้ายของการประชุม ประธานสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของฟิลิปปินส์ ได้ส่งมอบตำแหน่งประธาน SEANF ให้กับประธาน กสม.ไทย โดยในปี 2561 กสม.ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม SEANF ด้วย
นายวัส กล่าวว่า ประเด็นหลักของที่ประชุมในปีนี้ ได้แก่ การโยกย้ายถิ่นฐานและสิทธิมนุษยชน (Migration and Human Rights) ซึ่งที่ประชุมได้ให้การรับรองเอกสาร SEANF Declaration on the Promotion and Protection of the Rights of Migration and Member of Their Families เพื่อใช้เป็นข้อเสนอและท่าทีของ SEANF ต่อกระบวนการ Global Compact onMigration and Refugees ซึ่งจะมีการรับรองในช่วงการประชุมระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติในเดือนกันยายน 2561 ต่อไป
ประธาน กสม. กล่าวด้วยว่า ในประเด็นเรื่องการโยกย้ายถิ่นฐานและสิทธิมนุษยชนนั้น ตนและคณะได้นำผลการดำเนินงานของ กสม. ทั้งในส่วนการรับเรื่องร้องเรียน การตรวจสอบ และการมีข้อเสนอแนะไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนข้อมูลจากการจัดสัมมนาเครือข่ายสิทธิมนุษยชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2560 ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ มานำเสนอต่อที่ประชุมด้วย นอกจากนี้ยังมีการหารือแลกเปลี่ยนอีกหลายหัวข้อ เช่น สิทธิของคนพิการ สิทธิมนุษยชนกันอินเทอร์เน็ต และการต่อต้านการทรมาน
ส่วนวันสุดท้ายของการประชุม เป็นการรับรองรายงานสรุปสาระสำคัญของการประชุมข้อเสนอแนะและผลการดำเนินการในปี 2560 โดยประธาน กสม. ได้เสนอข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินและป่าไม้ทั้งระบบ โครงการนำร่องการประเมินผลด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน ต่อเนื่องจากการสัมมนาเรื่องธุรกิจท่องเที่ยวกับการโรงแรมกับการเคารพสิทธิมนุษยชนตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติในเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และการจัดตั้งศูนย์ศึกษาและประสานงานด้านสิทธิมนุษยชนใน 4 ภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีการรายงานความคืบหน้าการจัดตั้งสำนักงานเลขานุการถาวรของ SEANF ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ให้ที่ประชุมทราบด้วย
สำหรับกรอบความร่วมมือระหว่างสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEANF) มีวัตถุประสงค์เพื่อ รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งเพื่อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนที่อยู่ในความสนใจร่วมกันหรือมีผลกระทบร่วมกัน ตลอดจนเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์กับกลไกสิทธิมนุษยชนของอาเซียน โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (AICHR) และคณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก (ACWC)
ปัจจุบัน SEANF ดำเนินงานภายใต้แผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (พ.ศ.2560-2564) มีเป้าประสงค์หลัก
ที่สำคัญดังนี้
(1) สร้างความเข้มแข็งให้กับ SEANF ในฐานะเป็นสถาบันที่มีความเป็นอิสระและเป็นมืออาชีพโดยการพัฒนาศักยภาพของสมาชิก จัดตั้งสำนักงานเลขานุการถาวรที่มีทรัพยากรบุคคลและงบประมาณอย่างเพียงพอ
(2) ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการจัดตั้ง รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สอดคล้องกับหลักการปารีส
(3) เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ภาคประชาสังคมรัฐบาล และองค์การระหว่างประเทศ
(4) จัดทำข้อเสนอแนะทางด้านกฎหมาย นโยบาย มาตรการ และเยียวยาเพื่อให้เกิดการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคที่สอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
(5) ดำเนินการร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์ เพื่อตอบสนองต่อประเด็นสิทธิมนุษยชนที่เร่งด่วน และอยู่ในความห่วงกังวลร่วมกัน