จับอดีตอธิการบดี สจล. แจ้งข้อหาเพิ่มโกงอีก689ล้าน
กองปราบปรามจับอดีตอธิการบดี สจล.แจ้งข้อหาเพิ่ม หลังพบโกงเงินสถาบันฯอีกกว่า 689 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2560 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. , พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี , พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก ผกก.(สอบสวน) บก.ป. , พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. , พ.ต.ต.เจตนิพัทธ์ ศิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายถวิล พึ่งมา อายุ 63 ปี อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ , ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม , เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริต และข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จับกุมได้ที่บ้านพักเลขที่ 98 ซอยลาดกระบัง 50 แยก 12 แขวงและเขตลาดกระบัง กทม.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2558 น.ส.วรวรรณ สุวรรณกฎ รับมอบอำนาจจาก สจล.เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ให้ดำเนินคดีกับนายถวิล หลังจากร่วมกับ นายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศรีนครินทร์ ปลอมแปลงเอกสารของทาง สจล.เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารดังกล่าว จนทำให้ สจล.ได้รับความเสียหายกว่า 689 ล้านบาท โดยภายหลังได้รับคดีไว้ ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะขออำนาจศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวนายถวิล ไว้ได้ดังกล่าว
สำหรับคดีนี้เป็นอีกหนึ่งคดีที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาและพิจารณาคดีกับนายถวิล เพิ่มเติม ภายหลังจากตรวจสอบบัญชีธนาคารของกลางแล้วพบว่ามีความเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้น นอกเหนือจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ สจล.ที่ตรวจสอบพบไปก่อนหน้านี้ เป็นวงเงินกว่า 1,600 ล้านบาท และได้มีการดำเนินคดีกับนายถวิล และผู้ต้องหาอีกหลายรายที่เกี่ยวข้องไปแล้ว นับตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งในส่วนของนายทรงกลด ทางฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ในส่วนของขั้นตอนภายหลังจับกุมนายถวิล นั้น ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำ ซึ่งเบื้องต้นนายถวิล ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยไม่ขอให้การใดๆ ในชั้นสอบสวน และจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น ทั้งนี้ เมื่อสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว ทางพนักงานสอบสวนก็จะคุมตัวไปขออำนาจศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อผลัดฟ้องฝากขังต่อไป
สำหรับคดีก่อนหน้านี้ นายถวิล ได้ถูกดำเนินคดีพร้อมกับ นายสรรพสิทธิ์ ลิ่มนรรัตน์ , นายศรุต ราชบุรี , น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อดีต ผอ.กองคลัง สจล. , นายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศรีนครินทร์ และนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร ทำธุรกรรมการเงิน จนทำให้ สจล.ได้รับความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท
ต่อมาภายหลังพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ไว้แล้ว จึงขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรี ออกหมายจับนายถวิล ใน 5 ข้อหา ประกอบด้วย ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ , ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม , เป็นเจ้าพนักงานของรัฐที่ดูแลทรัพย์เบียดเบียนทรัพย์เป็นของตนเอง , เป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กระทั่งนายถวิล ได้เข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีดังกล่าว